ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

 เริ่มจากผลผลิตการเกษตรที่ออกมามากในแต่ละปี  ส่งผลทำให้ราคาของผลผลิตตกต่ำ จึงมีแนวคิดในการเพิ่มมูลค่าของผลผลิต  จึงได้ศึกษาจากทางอินเตอร์เน็ตและเข้ารับการฝึกอบรมการทำไวน์และหลายๆอาชีพ  แล้วจึงนำมาใช้แปรรูปกับผลผลิตที่มีในท้องถิ่น  ทำให้มูลค่าของผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อเป็นการนำผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูป สร้างมูลค่า ให้กับคนในชุมชน ให้เกิดรายได้

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

๑. ผลไม้ที่จะใช้ในการผลิตไวน์ เช่น ลำไย  ลิ้นจี่  กล้วย  และอื่นๆ

๒. ถังพลาสติกใสขนาด ๒๐ ลิตร

๓. เครื่องวัดค่าความเปรี้ยว

๔. เครื่องวัดค่าความหวาน

๕. ยิสต์

๖. อาหารยิสต์  DAP (Diammonium Phosphate)

๗. KMS (Pottasium Metabisulphite) โปตัสเซียมเมตาไบซัลไฟต์

๘. กรดมะนาว (CITRIC ACID)

๙. น้ำตาล และน้ำสะอาด

๑๐. เบนโทไนต์ (Bentonite)

๑๑. หม้อต้มน้ำที่วัดอุณภูมิได้

๑๒. เครื่องปั่น  มีด 

๑๓. เครื่องชั่งน้ำหนักขนาด ๐.๐๑-๕๐๐ กรัม

กระบวนการ/ขั้นตอน->

๑. คัดเลือกผลไม้ที่สุกเต็มที่แต่ไม่ช้ำ ไม่เน่า ล้างน้ำสะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง ทำการปลอกเปลือกหากมีเปลือกหนา เช่น สับปะรด ถ้าเป็นมัลเบอร์รี่จะใช้ผลดำผสมกับแดงดำอย่างละ 1 ส่วน

๒. นำไปปั่นแล้วกรองเอาเฉพาะน้ำ

๓. วัดค่าความหวานของน้ำผลไม้ ให้ได้  20-22 Brix

๔. วัดค่าความเป็นกรด-ด่าง  (PH) ให้อยู่ในช่วง  3.5-4.0 PH

๕. ใส่  KMS (โปตัสเซียมเมตาไบซัลไฟต์) อัตราส่วน 1 กรัม ต่อ น้ำผลไม้  10 ลิตร เพื่อฆ่าแบคทีเรียและเชื้อยิสต์จากธรรมชาติ

ทิ้งไว้  24 ชั่วโมง

๖. ใส่ยิสต์อัตราส่วน  5  กรัม ต่อน้ำผลไม้  20 ลิตร

๗. หลังจากใส่ยิสต์เติม DAP (Diammonium Phosphate) เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงเชื้อยิสต์

๘. หมักทิ้งไว้ประมาณ  3 อาทิตย์

๙.​ ถ่ายส่วนใสของสุราแช่ออกมา โดยวิธีกาลักน้ำ

๑๐. ใส่  KMS (โปตัสเซียมเมตาไบซัลไฟต์) เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของยิสต์ (ยุติการหมัก) อัตราส่วน 2 กรัมต่อ 10 ลิตร

๑๑. ถ้าในกรณีไวน์ไม่ใสพอ  ให้ทำการ  Bentonite เพื่อให้ไวน์ใสด้วย  Bentonite

๑๒. บ่มต่ออย่างน้อย 3-6 เดือน

๑๓. บรรจุขวด

ข้อพึงระวัง ->