ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ข้าวเกรียบเป็นอาหารว่างที่ประชาชนนิยมรับประทานกันมากโดยใช้เป็นกับแกล้มหรือรับประทานเล่น ทำจากแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก อาจมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์หรือผักหรือผลไม้

 

วัตถุประสงค์ ->

เป็นการร่วมกลุ่มเพื่อส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้คนในชุมชน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

(๑) แป้งมัน 1 กิโลกรัม

(๒) เนื้อปลา 600 กรัม ( 6 ขีด)

(๓) เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ

(๔) พริกไทยป่น 3 ช้อนโต๊ะ

(๕) น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

(๖) กระเทียมโขลกละเอียดๆ 3 ช้อนโต๊ะ

(๗) น้ำเดือด 1 ถ้วยตวง

(๘) น้ำ  1/2  ถ้วยตวง

อุปกรณ์ ->

(1) เครื่องบดปลา หรือเขียงสำหรับสับปลา

(2) เครื่องนวดปลาหรือชามอ่างเคลือบสำหรับนวดปลา

(3) แผ่นกระดานหรือเขียงสำหรับปั้นข้าวเกรียบ

(4) หม้อนึ่งข้าวเกรียบ

(5) เครื่องหั่นข้าวเกรียบ หรือจะใช้มีดหั่นด้วยมือก็ได้

(6) แผงสำหรับตากข้าวเกรียบ
 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

(๑) ชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ ถ้าเป็นปลาหมึกลอกหนังออก ดึงไส้และหมึกดำออก ถ้าเป็นกุ้งแกะเปลือกและหัวออกเหลือแต่เนื้อล้วน นำไปลวงพอสุก ๆ ดิบ ๆ แล้วนำมาบดหรือสับให้ละเอียด    ถ้าเป็นปลาที่มีกลิ่นคาวมากให้ล้างน้ำเกลือ 4% (น้ำ ๑ ลิตร เกลือป่น ๒ ช้อนโต๊ะ) ก่อนจะนำไปบด

                          (๒) นำแป้งมัน เกลือป่น พริกไทยป่น น้ำตาลทรายมาผสมให้เข้ากันดี

                          (๓) นำแป้งที่ผสมแล้ว ๑ ถ้วยตวงนวดกับน้ำเดือดก่อนเพื่อเป็นเชื้อแล้วจึงค่อยเติมเนื้อปลา กระเทียมโขลกละเอียดและแป้งนวดจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันจนกระทั่งหมดส่วนผสมนานประมาณ ๒๐   นาที   การเติมน้ำมันต้องดูว่าเวลานวดแป้งแห้งไปจึงค่อยเติมน้ำเพราะในเนื้อปลา หมึก กุ้ง จะมีน้ำอยู่แล้วอาจจะไม่ต้องเติมเมื่อได้ที่ควรจะลองปั้นดูให้นิ่มพอดี ถ้าแข็งเกินไป   ข้าวเกรียบจะแตก แต่ถ้านิ่มเกินไปปั้นแล้วจะไม่กลม

                          (๔) นำแป้งและปลาที่ผสมเครื่องเทศเรียบร้อยแล้วมาปั้นเป็นแท่งกลมยาวแล้วใส่ในภาชนะที่กรุด้วยใบตอง นึ่งประมาณ ๑-๑ ๑/๒ ชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของท่อนข้าวเกรียบ

                          (๕) เมื่อนึ่งเสร็จแล้วตั้งทิ้งไว้ค้างคืนเพื่อให้ผิวนอกแข็ง แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ด้วยเครื่องหั่นหรือด้วยมือ แล้วตากบนแผงตามข้าวเกรียบประมาณ ๑-๒ แดด  เมื่อแห้งสนิทดีแล้ว เก็บข้าวเกรียบไว้ในปีบ หรือภาชนะที่กันแสงได้เพื่อไม่ให้ข้าวเกรียบเปลี่ยนสี

                          (๖) เวลาจะรับประทาน ต้องนำมาทอดในน้ำมันร้อน ๆ 

ข้อพึงระวัง ->