ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

แป้งทอดทรงกลมแบน ๆ มีรูตรงกลาง เป็นขนมที่หลายคนคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก หลายคนอาจจะยกให้โดนัทเป็นขนมชิ้นโปรดเลยก็ได้ มีให้เลือกหน้า เลือกไส้มากมายจนกินตามมากมาย แต่โดนัทที่เราลิ้มรสอร่อยกันมานานนั้นมีประวัติความเป็นมายังไง เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน การทำโดนัทที่นำมาบันทึกเป็นภูมิปัญญานั้น เพราะว่าเป็นความถนัดอย่างหนึ่งที่สามารถนำมาทำและไปต่อยอดให้เกิดรายได้ต่อไปได้

วัตถุประสงค์ ->

เป็นการรวมกลุ่มเพื่อส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. น้ำตาลทราย 120 กรัม

2. ยีสต์ 15 กรัม

3. น้ำ 100 มิลลิลิตร

4. นมสดรสหวาน 140 มิลลิลิตร (เราใช้นมไทย-เดนมาร์ค รสหวานแทน กะจะให้หวาน)

5. เกลือป่น 5 กรัม (เราใส่แค่หยิบ 3 นิ้ว)

6. ไข่ไก่ (ขนาด 50-55 กรัม) 2 ฟอง

7. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม

8. เนยจืด  30 กรัม

9. ไขมันถั่วเหลืองสำหรับทอดโดนัท

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. นวดผสมน้ำตาลทราย ยีสต์ น้ำ นมสดรสหวาน เกลือป่น ไข่ไก่ แป้งสาลีอเนกประสงค์ และเนยจืดเข้าด้วยกันในอ่างผสม นวดด้วยมือประมาณ 40 นาที แล้วพักไว้ 30 นาที จนแป้งโดว์ขึ้นเป็น 2 เท่า

          2. นำแป้งที่ขึ้นโดแล้วมาทุบไล่ลมแล้วพักต่ออีก 30 นาที หรือจนแป้งขึ้นเป็น 2 เท่า

          3. นำแป้งมาคลึงให้หนาประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นใช้ก้นแก้วกับพิมพ์คุกกี้มากดแป้งแล้วพักแป้งโดนัทให้ฟู

          4. ใส่ไขมันถั่วเหลืองสำหรับทอดโดนัทลงในกระทะหรือหม้อ ใช้ไฟกลางทอดให้ขาวฟูทั้งสองด้านก่อน แล้วค่อยปล่อยให้เหลืองทีละด้านนะคะ จะได้ขอบขาว ๆ มาด้วย

          5. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน นำไปชุบกับส่วนผสมน้ำตาลไอซิ่ง รอจนเซตตัว พร้อมเสิร์ฟ

 

ข้อพึงระวัง ->

1. การนวดโดนัทยีสต์ ควรนวดจนก้อนแป้งเนียนไม่ติดอ่างผสม ถ้านวดน้อยเกินไปจะทำให้ผิวไม่เรียบ ทอดแล้วอมน้ำมัน

          2. การตัดแป้งโดนัทยีสต์ สามารถทำได้โดยการคลึงแป้งโดนัทเป็นแผ่นใหญ่ แล้วใช้พิมพ์ตัดกดแป้ง ให้เป็นวงกลมและ พิมพ์กดตรงกลางให้เป็นรู แต่วิธีนี้จะทำให้เหลือเศษแป้งมากกว่าใช้มือเจาะรูโดนัท ซึ่งวิธีทำคือแบ่งก้อนแป้งตามน้ำหนัก  คลึงให้เป็นก้อนกลมแล้วใช้นิ้วเจาะรูลงไปตรงกลางให้เป็นรูแล้วหมุนนิ้วเพื่อให้เป็นรูเจาะกว้างขึ้น  วิธีนี้จะไม่มีเศษของโดนัทเหลือเหมือนกับใช้พิมพ์กด  ทำให้ขนมที่มีขนาดเท่ากัน  และมีความนุ่มเท่ากันทุกก้อนอีกด้วย

          3. ก่อนเจาะรูโดนัท หรือก่อนคลึงเป็นเส้นยาว ควรพักแป้งให้คลายตัวก่อน ประมาณ 10 นาที ถ้าพักแป้งน้อยเกินจะทำให้เวลาเจาะรูแป้งจะขาด หรือทำให้ผิวของโดนัทฉีกขาด เมื่อนำไปทอดผิวหน้าของโดนัทจะไม่เรียบ

          4. หลังจากทำรูปร่างของโดนัทเรียบร้อยแล้ว ควรพักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้แป้งขึ้น ระยะเวลาพักขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในเวลานั้น ถ้าอากาศเย็นอาจต้องใช้เวลาพักนานขึ้น โดนัทที่ขึ้นน้อยเกินไป เมื่อนำไปทอดเนื้อจะแน่นและแข็ง แต่ถ้าแป้งขึ้นมากเกินไปเมื่อทอดเสร็จแล้วแป้งจะยุบและเหี่ยว เนื้อแป้งเป็นโพรงอากาศใหญ่และหยาบ

          5 ถ้าต้องการให้โดนัทไม่อมน้ำมัน ควรใช้เนยขาว(สำหรับทอด) แทนน้ำมันพืช เนื่องจากเนยขาวมีคุณสมบัติคงความร้อนได้นานอย่างสม่ำเสมอมากกว่าน้ำมันพืช ระหว่างทอดโดนัทจึงไม่อมน้ำมัน และเนยขาวที่ใช้ทอดเมื่อเย็นลงจะแข็งตัวเป็นแผ่นฟิล์มบางๆเคลือบผิวโดนัทไว้ เมื่อโดนัทเย็นลงผิวจึงไม่แฉะ ไม่มีน้ำมันเยิ้ม

          6. น้ำมันที่ใช้ทอดโดนัทต้องร้อนจัดแต่ไฟอ่อน โดยเฉพาะโดนัทเค้ก ถ้าทอดในน้ำมันไม่ร้อน ขนมจะดูดซึมน้ำมันเข้าไปในแป้งมากทำให้โดนัทอมน้ำมัน  ในขณะเดียวกันถ้าไฟแรงเกินไปผิวหน้าของขนมจะไหม้ก่อนโดนัทจะสุกทั่วและอาจทำให้โดนัทแตกตอนทอดได้

          7. ระหว่างทอดโดนัทควรกลับโดนัทเพียงครั้งเดียว ไม่ควรกลับโดนัทไปมาหลายรอบ จะทำให้อมน้ำมันและทำให้โดนัทมีชิ้นเล็กได้

8. โดนัทยีสต์เมื่อทอดสุกแล้วเกิดการเหี่ยว อาจเป็นเพราะ  ส่วนผสมแป้งเหลวเกินไป ทำให้โครงสร้างของแป้งไม่อยู่ตัว  หรือใส่ยีสต์มากเกินไปทำให้โดนัทขึ้นเร็ว  หรืออุณหภูมิของน้ำมันสูงเกินไป ขนมอาจเหี่ยวได้เนื่องจากยังไม่สุกดี

          9. โดนัทที่ทอดสุกแล้วจะนำมาคลุกน้ำตาล ควรทำขณะยังร้อน  ถ้าโดนัทเย็นจะคลุกน้ำตาลไม่ติด ตรงข้ามกับโดนัทที่จะนำมาเคลือบหน้าด้วยไอซิ่ง ควรพักให้เย็นเสียก่อน เพราะโดนัทซึ่งทอดเสร็จใหม่ๆยังคงความร้อนอยู่ ทำให้น้ำตาลไอซิ่งละลาย

          10. โดนัทที่จะคลุกเกล็ดขนมปัง แนะนำให้ชุบน้ำแทนชุบไข่ เพราะถ้าชุบไข่ น้ำมันจะเป็นฟองระหว่างทอด ทำให้น้ำมันเก่าเร็ว

          11. โดนัทยีสต์ที่ทำเสร็จแล้ว ไม่นิยมเก็บไว้ข้ามคืนเพราะแป้งจะแข็งทำให้คุณภาพของขนมลดลง ส่วนโดนัทเค้กหลังจากทำเสร็จแล้วสามารถเก็บได้ประมาณ 2 – 3 วัน ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บ