นวดแผนไทย
โดย : นางสาวเฉลิมวงศ์ โค้งอาภาส วันที่ : 2017-03-19-21:36:57ที่อยู่ : 28 ม.11 ต.กระเบื้องนอก
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การนวดไทย หรือ นวดแผนโบราณ เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการกด การคลึง การบีบ การดัด การดึง และการอบ ประคบ ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ "นวดแผนโบราณ" โดยมีหลักฐานว่านวดแผนไทยนั้นมีประวัติมาจากประเทศอินเดีย และมีการนำเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากันกับวัฒนธรรมของสังคมไทย จนเป็นรูปแบบแผนที่เป็นมาตรฐานของไทยและส่งทอดมาจนถึงปัจจุบัน
กลุ่มสตรีแม่บ้านและ อสม. บ้านโนนสูง หมู่ 11 ต.กระเบื้องนอก ได้มีความรู้และทักษะในการนวดแผนโบราณจากการเข้ารับการฝึกอบรม กับสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลสมเด็จย่า 100 ปี อำเภอเมืองยาง จำนวน 7-8 คน จึงต้องการถ่ายทอดความรู้ไปสู่สมาชิกในกลุ่มชุมชนเพิ่มมากขึ้น และต่อยอดในการนวด โดยจะนำสมุนไพรที่หาได้ในท้องถิ่น มาทำลูกประคบ ประกอบการนวดอีกทางหนึ่ง ซึ่งสมาชิกทุกคนสามารถที่จะมีรายได้เพิ่มมากมากขึ้น
วัตถุประสงค์ ->
1.เพื่อให้สตรีใชชุมชนมีรายได้เสริมเพิ่มมากขึ้น
2.เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มด้านสมุนไพร
3.เพื่อสร้างกลุ่มอาชีพ เสริมความเข้มแข็งในชุมชน
4.เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างส่วนต่างๆ ให้มีอาการทุเลาลงก่อนไปพบแพทย์
5.เพื่อใช้ลูกประคบ รักยาบรรเทาอาการของผู้ป่วยให้บรรเทาเบาบางลงก่อนพบแพทย์
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
- พืชสมุนไพรชนิดต่างๆ ได้แก่ ตะไคร้บ้าน,ผิวมะกรูด,ขมิ้นชัน,เหง้าไพล,ใบส้มป่อย,ขมิ้นอ้อย,การบูร,พิมเสน,ขิงสด,ว่านนางคำ ว่านน้ำ และเกลือแกง เป็นต้น
อุปกรณ์ ->
1.ที่นอน
2.ผ้าปู
3.หมอนหนุน
4.หมอนข้าง
5.ยาหม่อง
6 .ลูกประคบ
อุปกรณ์การทำลูกประคบ ประกอบด้วย
-ยาสมุนไพรชนิดต่างๆที่ใช้ทำลูกประคบ
-มีด
-เขียง
- ผ้าดิบสำหรับห่อลูกประคบ
-เชือก/ถุงมือ/ผ้าขนหนู
-หม้อนึ่ง/กะละมัง/จานรอง/เตา
กระบวนการ/ขั้นตอน->
- วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน เรียนรู้และฝึกฝนได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายด้วย 5 ท่านวดเอวและหลัง ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดอาการเคล็ดขัดยอก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ปรับสมดุลของฮอร์โมน กระตุ้นให้ระบบต่างๆ ทำงานดีขึ้นและผ่อนคลายความเครียด เพื่อสุขภาพที่ดีและอารมณ์ดี ดังนี้.-
ท่าที่ 1 ลูบข้างลำตัว ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อยผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางไว้ข้างลำตัวของผู้ถูกนวดบริเวณช่วงเอว ให้นิ้วทั้งสี่อยู่ด้านข้างลำตัว นิ้วหัวแม่มือวางบนแผ่นหลัง ลูบจากเอว ขึ้นไปจนถึงใต้รักแร้ ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่มือทั้งสองข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป
ท่าที่ 2 คลึงกล้ามเนื่อหลัง ช่วยลดอาการกล้ามเนื่อหลัง
วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดกางมือทั้งสองข้างออกให้กว้างที่สุด แล้ววางลงบนท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงจากท้ายทอยลงมาตามแนวกล้ามเนื้อหลังจนถึงก้นกบให้กดน้ำหนักลงที่นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง คลึงจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบ คลึงลงไปอย่างช้า ๆ ทำสลับไปมาจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป
ท่าที่ 3 ลูบแนวกระดูกสันหลัง
วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางลงบนกระดูกสันหลังของผู้ถูกนวดบริเวณก้นกบ ใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ (นิ้วหัวแม่มือ) สัมผัสกับส่วนที่นวด ลูบจากก้นกบ ขึ้นไปจนถึงท้ายทอย ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่ปลายนิ้วทั้งสี่ทั้งสองข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป
ท่าที่ 4 ลูบเอว
วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้เนินฝ่ามือวางไขว้ให้ข้อมือหันเข้าหากันแล้ววางลงบนสะบักของผู้ถูกนวด ออกแรงกดแล้วลูบไปด้านตรงข้าม กดแล้วลูบกลับมาตำแหน่งเดิม ทำไล่ตั้งแต่บริเวณเอวจนถึงใต้รักแร้ สลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป
ท่าที่ 5 ดัดสะโพก
วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือซ้ายกดลงที่กระดูกสันหลังด้านล่างเอวเล็กน้อย มือขวาจับขาซ้ายของผู้ถูกนวดบริเวณเหนือหัวเข่าเล็กน้อย ให้ขาซ้ายของผู้ถูกนวดพาดลงบนข้อศอกขวาของผู้นวด ให้ดึงต้นขาของผู้ถูกนวดให้เหยียดไปทางด้านหลังและมือซ้ายกดลงที่กระดูกสันหลังด้านล่างเอว โดยให้ขาชี้ขึ้นจนลำตัวช่วงหลังแอ่นขึ้น โดยเริ่มดัดเบา ๆ ก่อนแล้วจึงค่อนเพิ่มแรงดัด ดัดแล้วคลายทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนไปดัดสะโพกด้านขวาต่อไป.-
ข้อพึงระวัง ->
- ผู้ที่เป็นหมอนวดจะต้องฝึกฝนผ่านการอบรมมาอย่างดี มีความชำนาญ ถ้าพลาดมาผู้ถูกนวดอาจมีผลต่อเนื่องหรืออาจบาดเจ็บได้