ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การปลูกผักและทำปุ๋ยหมักชีวภาพ

โดย : นางอ่นุเรือน พลสงคราม วันที่ : 2017-03-14-22:55:24

ที่อยู่ : 130/1 ม.7 ต.กระเบื้องนอก

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

              จากคำสอนของพ่อแม่ที่เป็นเกษตรกรเลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เล็กจนใหญ่  หากลูกกินไม่อิ่ม ให้ลงมือทำ "ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก" เป็นคำสอนที่จำฝังใจไม่เคยลืม เพราะเป็นคำสอนที่ส่งต่อกันมาจาก พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู้หัวในหลวงรัชกาลที่ 9  ที่มอบให้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะกับครอบครัวเกษตรกร ในการทำการเกษตรผสมผสาน

              จากการทำนาอย่างเดียว มีแต่ขาดทุนและยากจนเหมือนเดิม จึงได้น้อมนำคำสอนของในหลวง ร.9 มาปฏิบัติอย่างจริงจัง แปลงเกษตรผสมผสาน บริหารพื้นที่ทั้งหมดให้ได้ จากการปลูกพืชเชิงเดียว หันมาปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น มีแปลงปลูกผักกินใบ สวนผสม  บ่อปลา โรงเลี้ยงไก่ ผลิตปุ๋ยชีวภาพ สมุนไพรไล่แมลง และการบริหารจัดการแหล่งนำ้ ไว้ใช้ประโยชน์

              เกษตรผสมผสาน ของข้าพเจ้าเริ่มต้นจากกิจกรรม 2 อย่างคือ การปลูกผักและทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้มีชีวิตอย่างพอเพียงเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว และเลี้ยงชุมชนได้ 

วัตถุประสงค์ ->

1.เพื่อพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการเกษตรแผนใหม่ให้มีความมั่นคง เพียงพอต่อการดำรงชีพ

2.เพื่อสร้างแหล่งผลิตอาหารไว้บริโภค ให้เพียงพอต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน

3.เพื่อสนับสนุนเกษตรกรให้รักถิ่นที่อยู่อาสัย รู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

การปลูกผัก

     1.เมล็ดพันธ์ุผักต่างๆ    2.ปุ่ยหมักชีวภาพ 3.พื้นที่ปลูกที่เหมาะสมและมีธาตุอาหารเพียงพอ

การทำน้ำหมัก/ปุ๋ยหมัก

        เศษอินทรีย์วัตถุ/มูลสัตว์/รำอ่อน/กากน้ำตลาล/พด.1/ สาร EM

อุปกรณ์ ->

การปลูกผัก

1.มีด  จอบ เสียม บัวรดน้ำ

2.สายยางฉีดน้ำหรือระบบประปา  

3.ผ้าแสลนพรางแสงแดด/ตาข่ายล้อม

   การทำน้ำหมัก/ปุ๋ยหมัก

       - ถังพลาสติกมีฝาปิด  ขนาด 20,30,50 ลิตร /ไม้พาย/

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การปลูกผัก

1. การเตรียมพิ้นที่ปลูก พรวนดินให้ร่วนซุย  ตากดินไว้ ประมาณ1- 2 อาทิตย์

2.ยกร่องแปลงปลูก สูง 4-5 นิ้ว กว้าง 1-1.30 ม. ยาว ตามความเหมาะสมของพื้นที่

3.ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักลงไปในดิน คลุกเคล้าให้เข้ากัน (ตารางเมตรละ 2-3 กก.)

4.นำเมล็ดพันธุ์ห่อด้วยผ้าขาวแช่น้ำไว้ 1 คืน 

5.นำเมล็ดไปหว่านลงในแปลงผักที่เตรียมไว้  ทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ จึงทำการถอนแยกปรับแปลงให้พอดี ไม่แน่นหรือหนาเกินไป 

6.ผสมปุ๋ยหมักลงไปในดินก่อนหว่านเมล็ดผัก

7.ดูแลรดน้ำให้สม่ำเสมอทั่วถึงและค่อยๆ..เพื่อต้นกล้าจะได้ไม่บอบช้ำจากแรงน้ำที่รด..

8.ใช้แสลนพรางแสงแดงให้ต้นกล้า

9.ใช้ฟางข้าวหรือเศษวัชพืชคลุมดินเพื่อเก็บความชื้นให้ยุนานๆ.

10.หมั่นสังเกตดูแลรักษาปลอดจากโรคแมลง ฉีดพ่นด้วยสารสะเดา หรือปรึกษา จนท.เกษตรอำเภอ/หรือผู้รู้..

11.เมื่อครบช่วงอายุของผักแต่ละชนิดก็เก็บเกี่ยวออกมารับประทาน หรือจำหน่ายตามตลาดนัด หรือตลาดสดในตัวเมือง

การทำนำ้หมัก/ปุ๋ยชีวภาพ

  1.การทำน้ำหมัก นำเศษอาหาร/เศษพืชผัก วัชพืชใส่ลงในถังหมัก

  2.อีกถังใส่น้ำครึ่งถัง หรือ ค่อนถัง

3.เทกากน้ำตาลลงไป ประมาณ ครึ่งโล-1 กก.

4.ใส่ น้ำ Em ลงไปผสมกัน 1-2 แก้ว

5.ใช้ไม้พาย คนให้ละลายเข้ากัน นำไปเทลงในถังที่มีเศษอาหาร/เศษพืชผัก วัชพืชใส่ลงในถังหมัก6.คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน (30 วันป สามารถนำน้ำหมักไปใช้ประโยชน์ได้

การทำปุ๋ยหมัก

     1.นำมูลสัตว์/เศษวัชพืช/อินทรีย์วัตถุมากองรวมกันโดยใช้ตาข่ายพลาสติกกั้นรอบ

2.ใช้จอบ เสียม ผสมคลุกเคล้าให้เศษมูลสัตว์ อินทรีย์วัตถุให้เข้ากัน

3.นำน้ำหมักชีวภาพมาผสมกับน้ำในสัดส่วน น้ำ 10 ลิตร ผสมน้ำหมัก 1-2 ช้อนแกง หรือตามสัดส่วนในปริมาณที่เพิ่มขึ้น คนให้เข้ากัน

4.นำไปฉีดพ่น หรือเทราดกองเศษอินทรีย์วัตถุให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้

5.ทุก 5-7 วัน ทำการพลิกกองปุ๋ยครั้งหนึ่ง แล้วราดด้วยนำ้หมักอีก ทำอย่างนี้จนถึงประมาณ 30 วัน อินทรีย์วัตถุจะย่อยสลายสามารถนำปุ่ยหมักไปใส่พืชผักได้

 

     

ข้อพึงระวัง ->

-สังเกตกองปุ๋ยหมัก ถ้าแห้งเกินไปต้องรดน้ำผสมน้กหมักอยู่ทุกบ่อยเพื่อรักษาความชุมช่ื่นไว้อยู่เสมอ ถึงจะได้ปุ่นที่มีคุณภาพสูง

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดนครราชสีมา
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา