การเลี้ยงปลานิล
โดย : น.ส.สมหญิง อยู่เย็น วันที่ : 2017-03-14-18:57:02ที่อยู่ : ๑๐๕ หมู่ที่ ๗ ต.ดอนใหญ่ อ.คง จ.นครราชสีมา
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ปลานิล เป็นปลาที่คนนิยมนำมาประกอบอาหาร สามารถเลี้ยงได้ง่าย และจำนวนมาก ๆ ปลานิลราคาก็ไม่แพงมากนัก กิโลกรัมละ ๓๕ – ๔๐ บาท ซึ่งผิดกับปลาธรรมชาติ ซึ่งหามาบริโภคได้ยาก เนื่องจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติตื้นเขิน หรือแหล่งน้ำไม่สามารถเก็บกักน้ำได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งปลาตามธรรมชาติมีราคาที่แพง เช่น ปลาช่อน ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ ๑๒๐ – ๑๔๐ บาท ปลาชนิดอื่น ๆ ที่เป็นปลาธรรมชาติก็มีราคาแพงเช่นกัน อีกทั้งยังขาดตลาด ไม่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ผิดจากปลานิลซึ่งมีขายตลอดทั้งปี
วัตถุประสงค์ ->
๑. เพื่อสร้างแหล่งอาหารของครอบครัว
๒. เพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
๑. พันธุ์ปลานิล
๒. อาหารปลารวม (สำเร็จรูป)
๓. ฟางข้าว
๔. มูลวัว หรือมูลกระบือ
๕. วัชพืช เช่น ผักบุ้ง ผักตบชวา เป็นต้น
อุปกรณ์ ->
๑. เครื่องสูบน้ำ
กระบวนการ/ขั้นตอน->
๑. เตรียมบ่อที่จะเลี้ยงโดยการทำให้น้ำเขียวโดย สร้างแพไม้เพื่อวางแท่งฟางและเทมูลวัว หรือมูลกระบือ ไว้ที่มุมบ่อเลี้ยงปลา ทั้ง ๔ มุม
๒. เปิดน้ำเข้าบ่อ พอท่วมแท่งฟางและมูลวัว ทิ้งไว้ประมาณ ๒ สัปดาห์ เพื่อให้เกิดไรน้ำ (น้ำเขียว)
๓. ปล่อยลูกปลานิล จำนวน ๓,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ ตัวต่อไร่
๔. ขุนอาหารเช้าเย็น
๕. เลี้ยงไป ๔-๕ เดือน ปลาโตได้ขนาดพร้อมที่จะจับขายได้
๖. ก่อนจะจับปลาขาย ๒ สัปห์ดา ให้สูบน้ำในบ่อมาลงรางสังกะสีและไหลตกลงในบ่อเดิม ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ น. ถึง ๒๑.๐๐ น. ซัก ๓-๔ วัน เพื่อให้ปลาได้วางไข่ ไม่ต้องไปซื้อลูกปลามาปล่อย แล้วจึงค่อยจับปลาขาย
ข้อพึงระวัง ->
ควรซื้อลูกปลาจากภายนอกมาปล่อยลงทุกปี เพื่อไขว้สายพันธุ์ ป้องกันเลือดชิด ที่ปลาในบ่อผสมกันเอง ปลารุ่นต่อ ๆ ไปจะตัวเล็ก และเลี้ยงไม่โต