เทคนิคการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีในการปลูกพืชด้วยการทำปุ๋ยอินทรีย์ ใช้เอง
โดย : นายประไพ ศิริบุญคุณ วันที่ : 2017-03-20-18:22:38ที่อยู่ : บ้านเลขที่ ๗๔ หมู่ ๖ ตำบลหนองมะนาว อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
บ้านห้วยทราย เป็นหมู่บ้านที่ทำอาชีพการเกษตร ทำไร่ ทำนา ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม เป็นหลัก ในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ จึงได้มีการประชุมเพื่อปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และแผนการพัฒนาหมู่บ้าน เน้นการพัฒนาผ่านศูนย์เรียนรู้ในระบบกลุ่ม เพื่อให้คนในชุมชนมีโอกาสเข้ามาเรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกันตามความถนัด และความจำเป็นในการดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเกิดกลุ่มกิจกรรมขึ้นมามากมายหลายกลุ่มซึ่งคนในชุมชนได้ยึดเป็นอาชีพเสริมเนื่องจากเกิดรายได้จากการทำกิจกรรม และกลุ่มต่าง ๆ ยังเป็นที่สนใจในการศึกษาดูงานของคนภายนอก สถาบันการศึกษา และส่วนราชการทั้งในอำเภอ ในจังหวัด ภาคเอกชน ที่ขอเข้ามาศึกษาดูงาน และทำงานวิจัยร่วมกับกลุ่มต่าง ๆ ในหมู่บ้าน ข้าพเจ้าจึงได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคง จัดระบบกลุ่มแต่ละกลุ่มให้มีกรรมการขึ้นมารับผิดชอบกลุ่ม ปรับปรุงระเบียบของกลุ่มต่าง ๆ ให้มีมาตรฐาน จัดจุดถ่ายทอดกิจกรรมและวิทยากรผู้ถ่ายทอดความรู้ประจำจุดเรียนรู้ เอาไว้ในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านห้วยทราย และในขณะนั้นทางหมู่บ้านมีปัญหาในเรื่องของการสีข้าว ซึ่งคนในชุมชนจะนำข้าวไปสีตามโรงสีต่าง ๆ ได้ข้าวสารกลับมาน้อย ข้าวหัก และต้องจ่ายค่าสีกระสอบละ ๒๐ บาท ซึ่งคนในชุมชนมักจะสีข้าวขายเป็นข้าวสารเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นการแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกต่ำกว่าต้นทุนในการผลิต ปัญหาดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยหาทางแก้ไขในเวทีประชาคมของหมู่บ้าน จึงมีการทำโครงการจัดสร้างโรงสีชุมชุนไว้ในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านห้วยทราย เพื่อให้บริการในการสีข้าวฟรี และนำผลิตผลที่ได้เหลือจากการสีข้าว (แกลบ) มาใช้ประโยชน์และเพิ่มมูลค่าโดยนำมาแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อใช้แก้ปัญหาในเรื่องต้นทุนการผลิตทางการเกษตรที่สูง
วัตถุประสงค์ ->
เพื่อแก้ปัญหาต้นทุนการผลิตในเรื่องปุ๋ยเคมีที่มีราคาสูง และทำให้ดินเสื่อม
เพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้เรื่องการลดต้นทุนในการผลิต ให้คนในหมู่บ้านและชุมชน
เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนมีการรวมกลุ่มในการเรียนรู้ แก้ปัญหา ร่วมกันผลิต ร่วมกันซื้อ ร่วมกันขาย และมีการจัดสรรกำไรคืนให้ชุมชนและสมาชิก
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. มูลสัตว์ (วัว กระบือ) 300 กิโลกรัม
2. แกลบ และแกลบดำ 300 กิโลกรัม
3. ฟางข้าว ใบไม้ เศษวัชพืช
4. ยูเรีย 5 กิโลกรัม
5. รำอ่อน 20 กิโลกรัม
6. กากน้ำตาล 15 กิโลกรัม
7. ปูนขาว 25 กิโลกรัม
8. สารเร่ง พด.2 1 ซอง
อุปกรณ์ ->
ถัง 200 ลิตร สำหรับผสม นำ้ กากนำ้ตาล และสารเร่ง พด. 2
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. ชั้นที่ 1 นำฟางข้าว ใบไม้ เศษวัชพืช มางวางบนพื้น หนาประมาณ 20 เซ็นติเมตร ชั้นที่ 2 มูลสัตว์ หนา 20 เซ็นติเมตร ช้ัั้นที่ 3 แกลบ แกลบดำ หนา 20 เซ็นติเมตร
2. ในขั้นตอนของการวางวัสดุ ตามข้อ 1 แต่ละชั้นให้ หว่านปุ๋ยยูเรีย ปูนขาว และรำอ่อนไปด้วย แล้วลดด้วยนำ้ผสมกากนำ้ตาลและสารเร่ง พด.2 ให้ชุ่มให้ทั่วถึง
3. ทำตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 ประมาณ 3-4 ชั้น จะได้ปุ๋ยหมัก 1 กอง (นำ้หนักประมาณ 1 ตัน)
4. คลุมด้วยผ้ายางพลาสติก และหาวัสดุวางทับกันลมเปิด
5. เปิดผ้ายางพลาสติก กลับกองปุ๋ย ทุก 20 วัน แล้วคลุมด้วยผ้ายางพลาสติกปิดทับเหมืยเดิม
6. ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน สังเกตุหรือเจาะลงไปในกองปุ๋ย ไม่มีความร้อน แสดงว่าปุ๋ยหมักมีการย่อยสลายสามารถนำไปใช้ได้แล้ว
ข้อพึงระวัง ->
ในการวางวัสดุกองปุ๋ยแต่ละชั้น ควรหว่านปุ๋ยยูเรีย ปูนขาว รำอ่อน และลดส่วนผสมระหว่าง นำ้ กากนำ้ตาล สารเร่ง พด.2 ให้ทั่วถึง เพราะหากไม่ทั่วถึง การย่อยสลายจะไม่สมบูรณ์