ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

   ครอบครัวของ นางณัฐธิดา แท่งทองหลาง มีอาชีพทำการเกษตรปลูกผักทุกชนิด เช่น หอมแบ่ง คะน้า กวางตุ้ง แตงกวา ผักบุ้ง ผักชี ฯลฯ และต้องใช้สารเคมีช่วยให้ผักงาม ให้ผักที่ขายมีราคา ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี นอกจากจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูง แล้วยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้ปลูกและผู้บริโภคด้วย

   นางณัฐธิดา แท่งทองหลาง ได้มีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการต่าง ๆ ที่ส่วนราชการจัดเพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกรเรื่องการใช้ปุ๋ยจากธรรมชาติ โทษของการใช้สารเคมี ทำให้คนในครอบครัวรวมทั้งญาติพี่น้องได้ปรับเปลี่ยนการพึ่งพาสารเคมี มาใช้วัสดุที่หาไม่ยากมีอยู่ในพ้ื้นบ้านมาใช้ในการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ซึ่งเป็นการบำรุงดินให้ฟื้นคืนกลับมามีสภาพร่วนซุย ไม่เสื่อมโทรม ดีต่อสุขภาพ พืชผักขายได้ราคาดี เพราะตลาดไม่ต้องการผักที่ฉีดยา-ปลอดสารเคมี และได้นำความรู้ที่มีเผยแพร่ บอกเล่าให้เพื่อนบ้าน หรือผู้สนใจนำไปใช้อีกด้วย

 

วัตถุประสงค์ ->

1.เพื่อเป็นการปรับสภาพดีให้กลับมาร่วนซุย เหมาะแก่การเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดี

2.เพื่อให้ผู้ปลูกและผู้บริโภคมีสุขภาพที่ปลอดภัยจากสารเคมี

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1.ขึ้หมู  1 ถุง

2.ขี้วัว   1 ถุง

3.ขี้ไก่  1 ถุง

4.รำละเอียด  1 กกซ

5.พด.1    1 ซอง

6.ไดนาไม  1 กก

7.ฟอสเฟต  1 กก 

8.ปุ๋ยยูเรีย  1 กก.

9.น้ำหมักชีวภาพ  5 ลิตร

10.น้ำเปล่า  5 ลิตร

 

 

 

อุปกรณ์ ->

1.ถังสำหรับผสมน้ำหมัก กับน้ำเปล่า

2.พั่ว จอบ เสียม สำหรับคลุกเคล้าส่วนผสม

3.กระสอบใส่ปุ๋ย

4.เชือกฟาง

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1.นำขี้หมู ขี้วัว ขี้ไก่ มาเทรวมกัน ใช้พั่วคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ โรยรำละเอียด พด.1 เพิ่มลงไป แล้วคลุกเคล้ารวมกันอีกครั้ง

2.นำไดนาไม ฟอสเฟต และปุ๋ยยูเรีย ค่อย ๆ โรยผสมลงไปในกองปุ๋ย

3.นำน้ำหมักชีวภาพที่ผสมกับน้ำเปล่าแล้ว มาเทรดลงไปในกองปุ๋ยทีละน้อย ๆ จนหมด พร้อมกับคลุกเคล้าไปพร้อมกันจนเข้ากันดี

4.นำกรอกใส่กระสอบถุงปุ๋ยที่เตรียมไว้ มัดปากถุงด้วยเชือกฟาง

5.นำไปวางไว้ในที่ร่ม ไม่ให้โดนแดด แล้วพลิกกลับด้านทุก 15 วัน

เมื่อครบ 21 วัน ก็สามารถนำไปใช้ได้ ปุ๋ยหมักชีวภาพจะมีน้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ เพราะเกิดการย่อยสลาย

ข้อพึงระวัง ->

ปุ๋ยหมักชีวภาพสูตรนี้ ควรใช้ปุ๋ยสูตรนี้ตอนปรับปรุงดิน ไม่ควรใส่ปุ๋ยตอนที่ปลูกพืชแล้ว เพราะจะทำให้เค็มมาก

ปุ๋ยหมักชีวภาพเมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ จะทำให้ดินฟู ร่วนซุย