ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การเลี้ยงไก่พื้นบ้าน

โดย : นายวรีระ วัลละออ วันที่ : 2017-03-31-14:51:58

ที่อยู่ : 145 หมู่ที่ 9 บ้านโพธิ์ตาก ตำบลโพธิ์ตาก อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

“ไก่บ้าน” เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ความเป็นอยู่และการให้อาหารก็ง่ายมาก ๆ แต่ละบ้านที่เลี้ยงไก่บ้าน ถ้าไม่ได้เป็นเกษตรกรจริง ๆ มีงานประจำอยู่แล้ว หรืออาจจะไม่ได้มีรายได้จากทางอื่น ก็สามารถเลี้ยงไก่บ้านเพื่อเป็นรายได้เสริมให้ครอบครัวอีกทางหนึ่ง ถ้าเลี้ยงไว้จำนวนมากก็จะสามารถเพิ่มรายได้กลับมามากขึ้น เพราะว่าเนื้อไก่ก็เป็นเนื้อสัตว์ที่ถูกนำมาทำเป็นเมนูอาหารมาก ใครที่ประกอบอาชีพเลี้ยงไก่บ้าน สามารถส่งขายให้กับตลาดได้ เมื่อไก่ออกไข่ก็สามารถขายได้ หรือถ้ามีน้ำหนักตัวพอดีตามเกณฑ์ที่สามารถขายได้ราคาดีพอสมควร

วัตถุประสงค์ ->

เลี้ยงไก่พื้นบ้านให้เป็นที่ต้องการของตลาดเพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ในครัวเรือนได้

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. หยวกกล้วยสับละเอียด 200 กิโลกรัม>เเนะนำกล้วยน้ำว้าที่ยังไม่ออกเครือ

2. กากน้ำตาล 4 กิโลกรัม > กิโลกรัมละ 9 บาท มีขายทั่วไป

3. น้ำส้มควันไม้ 1 ลิตร > 60-100 บาท ต่อลิตร เเล้วแต่ยี่ห้อ

4. เกลือเม็ด 1 กิโลกรัม

อุปกรณ์ ->

-

กระบวนการ/ขั้นตอน->

สูตรอาหารไก่บ้าน

§  อาหารของไก่บ้าน อาหารทั่วไปที่ไก่บ้านสามารถกินได้ก็คือ ข้าวเปลือก บางบ้านมีข้าวสุกเหลือๆก็สามารถหว่านให้เจ้าไก่บ้านทานได้เลย

§  ถ้าอยากให้ไก่มีน้ำหนักตัวมาก มีน้ำหนักที่ดีอาหารที่เหมาะสมที่สุดก็อย่างเช่น ถั่ว ข้าวโพด รำข้าว เป็นอาหารราคาถูกที่หาได้ง่ายทั่วไป

§  สูตรอาหารเลี้ยงไก่ โตไวประหยัดต้นทุน ใช้เลี้ยงไก่ได้ 300 ตัว / วัน)

§  การทำหยวกหมัก

§  1. หยวกกล้วยสับละเอียด 200 กิโลกรัม>เเนะนำกล้วยน้ำว้าที่ยังไม่ออกเครือ

§  2. กากน้ำตาล 4 กิโลกรัม > กิโลกรัมละ 9 บาท มีขายทั่วไป

§  3. น้ำส้มควันไม้ 1 ลิตร > 60-100 บาท ต่อลิตร เเล้วแต่ยี่ห้อ

§  4. เกลือเม็ด 1 กิโลกรัม > กิโลกรัมละ 10 บาท

§  ผสมทั้งหมดให้เข้ากันใส่ถังปิดฝาให้สนิท หมักทิ้งไว้ 7 วัน"

5. ข้อพึ่งระวัง ปกติแล้วการเลี้ยงไก่พื้นบ้านมักจะปล่อยให้ไก่หาอาหารกินเองตามมีตามเกิด หรือตามธรรมชาติ โดยที่ผู้เลี้ยงอาจมีการให้อาหารเพิ่มเติมบ้างในช่วงตอนเช้า หรือตอนเย็นอาหารที่ให้ก็เป็นพวกข้าวเปลือก ปลายข้าว หรือข้าวโพด เป็นต้น จากสภาพการเลี้ยงดูแบบนี้ทำให้ความสมบูรณ์ของไก่ผันแปรไปตามสภาพดินฟ้าอากาศ คือ ในช่วงฤดูฝน ไก่จะมีอาหารค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากได้รับทั้งเมล็ดวัชพืชและหนอนแมลงในปริมาณมาก ซึ่งอาหารทั้งสองชนิดนี้เป็นแหล่งของไวตามินและโปรตีนที่สำคัญ ตามธรรมชาติ ทำให้ไก่ในฤดูกาลนี้มีการเจริญเติบโตและความแข็งแรงมากกว่าไก่ในฤดูอื่น ๆ ส่วนในฤดูเก็บเกี่ยว และนวดข้าว ไก่ก็มีโอกาสที่จะได้รับเศษอาหารที่ตกหล่นมาก ทำให้ไก่มีสภาพร่างกายอ้วนท้วนสมบูณ์พอสมควร ส่วนในฤดูแล้งมักจะประสพปัญหาไก่ขาดแคลนอาหารตามธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องน้ำซึ่งมักจะขาดอยู่เสมอ จำเป็นต้องเตรียมไว้ให้ไก่ด้วย หลักในการให้อาหารไก่พื้นบ้านมีดังต่อไปนี้

1.       ควรซื้อหัวอาหารเพื่อเอามาผสมกับอาหารที่ผู้เลี้ยงมีอยู่เช่น ผสมกับปลายข้าว หรือรำเป็นต้น อาหารผสมนี้ใช้เลี้ยงไก่โดยเฉพาะอย่างยิ่งไก่เล็ก จะทำให้ไก่ที่เลี้ยงโตเร็วและแข็งแรง

2.       การใช้เศษอาหารมาเลี้ยงไก่ควรคำนึงถึงความสะอาดและสิ่งแปลกปลอมที่เป็นพิษต่อไก่ด้วย

3.       ถ้าเป็นไปได้ควรเสริมเปลือกหอยป่นในอาหารที่ให้ไก่กินจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเปลือกไข่บางและปัญหาการจิกกินไข่ของแม่ไก่

4.       ควรนำหญ้าขนหรือพืชตระกูลถั่วบางชนิดเช่น ถั่วฮามาต้า ใบกระถิน หรือเศษใบพืชต่าง ๆ เช่น ใบปอ ใบมัน เป็นต้น นำมาสับให้ไก่กินจะทำให้ไก่ได้รับไวตามินและโปรตีนเพิ่มมากขึ้น

5.       การใช้แสงไฟล่อแมลงในตอนกลางคืน นำแมลงนั้นมาเป็นอาหารไก่จะทำให้ไก่ได้อาหารโปรตีนอีกทางหนึ่งนอกจากนี้ยังเป็นการช่วยทำลายแมลงศัตรูพืชอีกด้วย

6.       ควรมีภาชนะสำหรับใส่อาหารและน้ำโดยเฉพาะ โดยทำจากวัสดุต่าง ๆ ที่หาได้ เช่นยางรถยนต์ หรือไม้ไผ่ ภาชนะสำหรับให้น้ำและอาหารควรวางให้สูงระดับเดียวกับหลังของตัวไก่และใส่อาหารเพียง 1 ใน 3 ก็พอเพื่อให้หกเรี่ยราด สำหรับน้ำนั้นควรใช้น้ำที่สะอาดให้ไก่ดื่มกินตลอดเวลา ส่วนอาหารอาจจะให้เฉพาะตอนเช้า และเย็นเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นให้ไก่หาอาหารกินเอง

7.       สำหรับอาหารลูกไก่ ควรเป็นอาหารที่ละเอียด ย่อยง่าย และให้ทีละน้อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบการย่อยอาหารของลูกไก่ต้องทำงานหนักเกินไป

8.       ในช่วงการให้ไข่และฟักไข่ของแม่ไก่ ควรมีอาหารเสริมเป็นพิเศษสำหรับแม่ไก่ซึ่งจะช่วยให้แม่ไก่แข็งแรงไม่ทรุดโทรมเร็ว และไม่ต้องไปหากินไกล ๆ

9.       ในระยะการกกลูกไก่ในคอกนั้น จำเป็นต้องซื้ออาหารสูตรผสม (อาหารไก่เล็ก) ที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดมาให้ลูกไก่กิน การให้อาหารพวกปลายข้าว

10.   ข้าวเปลือกหรือรำ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือให้รวมกันจะไม่ได้ผล เพราะจะทำให้ลูกไก่แคระแกรน ไม่แข็งแรง และตายในที่สุด

11.   ดังนั้นจึงควรหาซื้ออาหารสูตรผสมที่มีโปรตีนเมื่อพ้นระยะการกกแล้วในช่วงเวลากลางวันก็สามารถปล่อยให้ไก่ออกหาอาหารตามธรรมชาติบ้าง ในช่วงก่อนค่ำก็ไล่ไก่เข้าคอกและควรให้อาหารสูตรสำเร็จเสริมให้ไก่ หรือจะให้เศษอาหารที่เหลือ หรือพวกปลายข้าว รำข้าว ก็ได้

12.   ในกรณีที่เลี้ยงไก่จำนวนมาก สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึงคือแหล่งอาหารตามธรรมชาติว่ามีเพียงพอต่อจำนวนไก่หรือไม่ ถ้าไม่เพียงพอก็ควรซื้ออาหารสูตรผสมให้กินเสริมด้วย มิเช่นนั้นจะพบว่าไก่ที่เลี้ยงจะผอม ไม่แข้งแรง และมักแสดงอาหารป่วยจนถึงตายในที่สุด

นอกจากการใช้สูตรอาหารสำเร็จมาใช้เลี้ยงไก่แล้ว ยังมีอาหารอีกรูปแบบหนึ่งที่มีจำหน่ายอยู่ในรูปเข้มข้น หรือเรียกกันว่าหัวอาหาร ซึ่งสามารถซื้อนำมาผสมกับวัตถุดิบในท้องถิ่นได้ เช่น ปลายข้าว ข้าวโพด หรือมันสำปะหลังตากแห้ง เป็นต้น การผสมมักจะคำนึงถึงสูตรอาหารที่จะใช้ว่าจะเลี้ยงในระยะลูกไก่หรือไก่รุ่น เมื่อทราบอายุไก่ที่เลี้ยงแล้วก็นำหัวอาหาร และวัตถุดิบที่มีอยู่มาผสมกันตามสัดส่วนที่คำนวณไว้ดังตัวอย่างเช่น ถ้าหัวอาหารประกอบด้วยโปรตีน 42 เปอร์เซ็นต์ จะนำมาผสมกับปลายข้าวที่ประกอบด้วยโปรตีนประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ เพื่อทำเป็นสูตรอาหารให้ได้โปรตีน 19 เปอร์เซ็นต์

ข้อพึงระวัง ->

-

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดนครพนม
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา