ความรู้สัมมาชีพชุมชน

image1

เกษตรผสมผสานระบบอินทรีย์

โดย : นายสายยันต์ จันทรา วันที่ : 2017-03-19-15:55:25

ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 109 หมู่ที่ 12 ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ชีวิตอยู่กับการเกษตรตั้งแต่แรกเกิดตนเองได้ทำการเกษตรโดยยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแนวทางในการทำงาน ยึดทางสายกลางเป็นหลัก พอประมาณมีเหตุ มีผลและมีภูมิคุ้มกันที่ดี จากการที่มีพื้นฐานด้านเกษตรอยู่แล้ว  ที่มีความอดทนเป็นพื้นฐาน มาทำสวนก็ปลูกพืชหลากหลายชนิด พึ่งพาตนเองทุกอย่าง เพื่อให้มีอาหารกินมีรายได้ประจำวัน ประจำสัปดาห์ประจำเดือน และรายปี

             จากกระแสความตื่นตัวเรื่องสุขภาพที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเห็นพิษภัยของเกษตรเคมี ซึ่งนอกจากจะไม่เป็นผลดีกับผู้บริโภคแล้ว ตัวเกษตรกรเองก็ได้รับผลกระทบโดยตรง ด้วยเหตุนี้ทำให้สินค้าที่ผ่านการผลิตด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันเกษตรกรเคมีหลายรายเปลี่ยนใจหันมาทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น 

          ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน เหตุผลที่ต้องทำเกษตรแบบเคมีเพราะอยากได้ผลผลิตดี รูปร่างสวยงาม ทำให้ขายง่าย ราคาดี ทั้งสะดวกในการดูแลรักษา แต่เมื่อสัมผัสกับสารเคมีนานวันเข้า ร่างกายเริ่มอ่อนแอ โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า เงินที่ได้จากการค้าขายผลผลิตต้องเอามารักษาสุภาพ ปุ๋ยเคมี ก็มีราคาสูงขึ้น หักกลบลบหนี้แล้วไม่มีเงินเหลือมีแต่หนี้ คิดแล้วการทำเกษตรแบบเคมีไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้นเลย เสียสุขภาพ เสียเวลา ที่สำคัญเสียใจที่มีส่วนทำให้ผู้บริโภคต้องมารับสารพิษเหล่านี้เข้าไปด้วย
          นี่เป็นจุดพลิกผันให้เลือกทำเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจังเมื่อปลายปี2556 โดยได้จัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ขึ้นเพื่อผลิตพืช ผักผล ไม้ ส่งโครงการเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก  ซึ่งมีโรงแพ็คผักอยู่ไม่ไกลจากบ้าน  ที่สำคัญสามารถรู้ราคาล่วงหน้าก่อนการผลิตและให้ราคาสูงกว่าการใช้สารเคมี   

  
         การที่ร่างกายสัมผัสกับสารเคมีต่อเนื่องเป็นเวลานาน มันไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเลย เดี๋ยวปวดตรงนั้น เดี๋ยวเจ็บตรงนี้ ไม่มีเรี่ยวแรง เหนื่อยง่าย คิดว่าหากเรายังทำแบบนี้ต่อไปชีวิตจะสั้นลงแน่นอน เลยตัดใจเลิกใช้สารเคมีอย่างเด็ดขาด หลายคนหัวเราะหาว่าบ้า ว่าทำแบบอินทรีย์ ไม่พอกิน แต่ก็ไม่ได้สนใจ คิดเพียงว่าทำกินเองในครอบครัว อยากให้คนที่เรารักสุขภาพแข็งแรง แต่พอลงมือทำอย่างจริงจัง นานวันเข้าผลตอบแทนที่ได้มันมากกว่าที่คิด ผลผลิตเป็นที่ยอมรับ มีรายได้แน่นอน ชีวิตความเป็นอยู่ให้สุขสบายขึ้น

         เมื่อสินค้าประเภทเกษตรอินทรีย์ได้รับความนิยมเป็นที่ต้องการของตลาด นั่นหมายถึงโอกาสของพ่อค้าคนกลางที่เข้ามาฉกฉวย กดราคา เพื่อนำสินค้าเหล่านี้ไปทำกำไรเอาเงินเข้ากระเป๋า แต่สำหรับผม กลับไม่กังวลกับเรื่องเหล่านี้เลยเพราะมีตลาดรองรับที่แน่นอนและขายได้ราคาดีด้วย         ช่วงแรกๆอาจจะมีปัญหาด้านการตลาด เพราะผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญเรื่องสารเคมียังมีน้อย เห็นผักมีตำหนิ รูปร่างไม่สวย ก็ไม่อยากซื้อ แต่เมื่อหลายปีมานี้คนตื่นตัวมากขึ้น ความต้องการเพิ่มมากขึ้นทำให้ผลผลิตเราขายดีไปด้วย ซึ่งทุกวันนี้มีตลาดหลักที่รับซื้อที่แน่นอนโดยทุกวันจันทร์  วันพุธ  และวันศุกร์  ส่งให้กับโครงการเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก และส่งต่อไปให้   ห้าง ท็อปส์ จำหน่าย  ซึ่งจะกำหนดราคารับซื้อล่วงหน้าและประกันราคาให้        ส่วนตลาดรอง ในวันพุธ จะไปจำหน่ายที่โรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นบุคลากรของโรงพยาบาล  และลูกค้าในละแวงใกล้เคียงที่รักในสุขภาพ ตลอดจนแม่ค้าในตลาดห้วยกระบอกและแม่ค้าตลาดนัดมารับซื้อไปขายต่อบ้างบางส่วน นอกจากรับซื้อผลผลิตแล้ว ทีมเจ้าหน้าที่เกษตร ของโครงการเพื่อนพึ่ง(ภา)ยามยาก  จะลงพื้นที่ ไปให้คำปรึกษา และแนะนำ ติดตามความก้าวหน้า ในการดูแลแปลงผัก  จะการมีประชุมกลุ่มทุกเดือน เพื่อเรียนรู้เทคนิคและวิธีการพัฒนาแปลงปลูก รวมถึงวิธีแก้ปัญหา

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบัน ผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ ได้รับความนิยมมาก มีเท่าไรขายหมดตลอด และที่สำคัญกว่านั้น คือ สุขภาพดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งในอนาคตจะพยายามเพิ่มผลผลิตและขยายเครือข่ายให้เพื่อนเกษตรกรคนอื่นๆหันมาทำเกษตรอินทรีย์เช่นกัน 
          จากการที่มีพื้นฐานด้านเกษตรอยู่แล้ว  ที่มีความอดทนเป็นพื้นฐาน มาทำสวนก็ปลูกพืชหลากหลายชนิดพึ่งพาตนเองทุกอย่างเพื่อให้มีอาหารกินมีรายได้ประจำวัน ประจำสัปดาห์ และประจำเดือน 

  การทำการเกษตรผสมผสานเป็นการลดความเสี่ยงด้านราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง ทำให้มีรายได้ตลอด และเมื่อได้เงินมาแล้วต้องรู้จักประหยัด อดออม มีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายว่าในแต่ละปี          และ หากเพื่อนเกษตรกรจะทำเกษตรผสมผสาน ปัจจัยนำมาซึ่งความสำเร็จ คือ ความพร้อมของตัวเราเอง ด้านสภาพร่างกายและจิตใจ พื้นที่มีความเหมาะสมหรือไม่ จะปลูกพืชชนิดใดที่ตลาดมีความต้องการ และสิ่งสำคัญคือแหล่งน้ำหากมีปัจจัยหลักดังกล่าว และมีแรงงาน มีกำลังใจ มีความมานะอดทน สามารถทำได้สำเร็จทุกคน

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

วิธีการทำเกษตรอินทรีย์

           1.ไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น เช่น ปุ๋ยวิทยาศาสตร์และยาปราบศัตรูพืช

           2. มีการไถพรวนระยะเริ่มแรก และลดการไถพรวนเมื่อปลูกไปนานๆ เพื่อรักษาสภาพโครงสร้างของดิน

           3.มีการเปลี่ยนโครงสร้างของดินตามธรรมชาติคือมีการคุมดินด้วยใบไม้แห้ง หญ้าแห้ง ฟางแห้ง วัสดุอื่นๆที่หาได้ในท้องถิ่นเพื่อรักษาความชื้นของดิน

           4. มีการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยพืชสด เพื่อบำรุงรักษาแร่ธาตุที่จำเป็นแก่พืชในดิน

           5. มีการเติมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์

           6. มีการเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วย เช่น เทคนิคการปลูก การดูแลเอาใจใส่ การขยายพันธุ์การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์การให้น้ำตลอดจนการเก็บเกี่ยว

           7. มีการปลูกอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยที่ดินให้ว่างเปล่า แห้งแล้ง ทำให้โครงสร้างของดินเสียจุลินทรีย์จะตายอย่างน้อยให้ปลูกพืชคลุมดินไว้ชนิดใดก็ได้

           8.มีการป้องกันศัตรูพืช โดยใช้สารสกัดธรรมชาติเช่น สะเดา ข่า ตะไคร้ยาสูบ โล่ติ๊น และพืชสมุนไพรอื่นๆที่มีอยู่ในท้องถิ่นจะเห็นได้ว่าการทำเกษตรแบบอินทรีย์นั้นไม่ใช้เรื่องเกินความสามารถของเกษตรกรไทย และการทำเกษตรอินทรีย์นั้นจะได้ผลผลิตน้อยในระยะแรกเท่านั้น เมื่อดินเริ่มฟื้นมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติแล้วผลผลิตจะสูงขึ้นการทำเกษตรประยุกต์

ข้อพึงระวัง ->

1.1 ห้ามพูดว่าไม่มีเวลา (เพราะแสดงให้เห็นว่า คุณขี้เกียจ)

1.2 ห้ามพูดว่าแถวนี้ไม่มีใครเขาทำ (เพราะแสดงให้เห็นว่า คุณก็ไม่แตกต่างจากคนอื่น แค่ทำตามเขา)

1.3 ห้ามเชื่อคนข้างบ้าน  (เพราะเขาเองก็อาจจะทำตามคนอื่น โดยไม่ถูกต้อง เช่นเรื่องปุ๋ย เรื่องยา)

1.4 ห้ามเชื่อคนขายยา (เพราะบางครั้ง เขาไม่มีสิ่งยาที่คุณต้องการ แต่ก็จะบอกคุณว่า ยี่ห้อนี้ สูตรนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน)

รูปประกอบ -> image1

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดนครปฐม
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา