ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การทำบายศรี

โดย : นางสุพิน เมืองมูล วันที่ : 2017-04-03-11:06:04

ที่อยู่ : 145 บ้านป่าก้าง ม.2 ต.สันป่าเปา

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

โดย "พิธีสู่ขวัญ" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีบายศรีสู่ขวัญ" เป็นพิธีเก่าแก่ของชาวไทยแทบทุกภาค การทำพิธีอาจจะผิดแผกแตกต่างกันไปบ้าง แต่หลักใหญ่ ๆ ยังคงเหมือนกัน ซึ่งพิธีสู่ขวัญนี้จะทำกันได้ในทุกโอกาส ทั้งในมูลเหตุแห่งความดีและไม่ดี พิธีสู่ขวัญจึงเป็นได้ทั้งการแสดงความชื่นชมยินดี และเป็นการปลอบใจให้เจ้าของขวัญ ตามความเชื่อที่ว่าคนเราเมื่อเกิดมาในโลกจะมี "ขวัญ" ประจำกายคอยช่วยพิทักษ์รักษาเจ้าของขวัญให้มีความสวัสดี ดังนั้น พิธีสู่ขวัญจึงถือเป็นประเพณีสำคัญที่จะทำพิธีเรียกขวัญให้มาสถิตอยู่กับตัว

วัตถุประสงค์ ->

เพิ่มรายได้
 

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ในการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญจะมีเครื่องใช้สำคัญอยู่ 2 อย่าง คือ เครื่องบูชาพาขวัญ หรือ เครื่องบายศรีตามประเพณี และด้ายดิบนำมาจับเป็นวงยาวพอที่จะผูกรอบแขนหรือรอบข้อมือได้ และในการจัดเครื่องบายศรีนี้ ถือว่าเป็นของสูงเพราะเป็นเครื่องสังเวยเทพยดา ดังนั้น จะต้องจัดด้วยพานแล้วนำใบตองมาเย็บเป็นบายศรี การจัดพานบายศรีงานแต่งยังต้องเริ่มจัดโดยคนบริสุทธิ์ คือ เป็นคนดี มีผัวเดียว-เมียเดียว โดยอาจมาเพียงมาจับ ๆ แตะ ๆ ตอนเริ่มจัดพานพอเป็นพิธี แล้วให้คนอื่นจัดต่อไปจนเสร็จ แต่ต้องจัดทั้งพานบายศรีของฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาว

          พานบายศรีจะถูกจัดและตกแต่งด้วยใบตองอย่างสวยงามเป็นชั้น ๆ จะมีความสูงที่ 3 ชั้น หรือ 7 ชั้นก็ได้ ทั้งนี้ ชั้นล่าง ประกอบไปด้วยกรวยข้าว ซึ่งหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ดอกไม้ ข้าวต้ม ไข่ต้ม ขนม กล้วย อ้อย มีดด้ามแก้ว และเงินบริสุทธิ์ที่ทำเป็นแห่งหรือก้อนที่เรียกว่าเงินฮาง ส่วนชั้นที่ 2 ขึ้นไปจะตกแต่งด้วยดอกไม้ใบตอง อย่างดอกฝาง ดอกดาวเรือง ดอกรัก ใบเงิน ใบคำ ใบคูน และใบยอป่า เพราะดอกไม้เหล่านี้มีความหมายเป็นมงคล เช่น...

          ดอกรัก หมายถึง ความรักที่มั่นคง
          ดอกดาวเรือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองและไปชัยพฤกษ์
          ใบคูน หมายถึง การมีอายุยืนยาว

          และที่พานบายศรีชั้นบนสุดจะมีใบศรี ด้ายผูกข้อมือ และเทียนสำหรับเวียนศีรษะ อย่างไรก็ตาม นอกจากพานบายศรีแล้ว ในพิธียังต้องเตรียมเครื่องบูชาและสิ่งประกอบอื่น ได้แก่ ขันบูชาและพานขนาดกลางสำหรับวางผ้า 1 ผืน แพร 1 วา หวี กระจกเงา น้ำอบน้ำหอม สร้อย แหวน และยังต้องมีอาหารคาวหวาน แก้วน้ำเย็น แก้วน้ำส้มป่อย และแก้วเหล้า สำหรับหมอขวัญดื่มหรือจุ่มด้วยดอกไม้สำหรับประพรมพานบายศรีด้วย
 

อุปกรณ์ ->

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบายศรี

 

          การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เป็นการเตรียมการที่ดี สามารถดำเนินงานได้ด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ควรจะต้องเตรียมไว้ดังต่อไปนี้

1.    ใบตอง (ควรให้ใบตองกล้วยตานี)

2.    พานแว่นฟ้า ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ผูกติดกันไว้ด้วยลวด และรองพื้นพานด้วยโฟม

3.    ภาชนะปากกว้างสำหรับใส่น้ำแช่ใบตอง 2 ใบ

4.    สารส้ม

5.    น้ำมันมะกอก ชนิดสีเหลือง หรือขาว

6.    ไม้ปลายแหลม (ขนาดไม้เสียบลูกชิ้น) ประมาณ 20-30 อัน

7.    ดอกไม้ (ดอกพุด ดอกดาวเรือง ดอกบานไม่รู้โรย ฯลฯ)

8.    กรรไกร สำหรับตัดใบตอง

9.    ลวดเย็บกระดาษ

กระบวนการ/ขั้นตอน->

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบายศรี

 

      

การประกอบพานบายศรี ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำบายศรี คือการนำริ้วที่ทำเสร็จแล้วและแช่ในน้ำผสมน้ำมันมะกอกแล้ว มาประกอบเข้ากับพานบายศรี 3 ชั้นที่ได้เตรียมไว้

          การน้ำริ้ว มาประกอบกับพาน ควรเริ่มต้นจากพานใหญ่สุด หรือพานที่วางอยู่ชั้นล่างสุดก่อน โดยการวางให้ริ้วอยู่บนพานให้มีระยะห่างเท่าๆกัน 4 ริ้ว ( 4 ทิศ ) ซึ่งจะยึดริ้วติดกับพานโดยใช้ไม้ปลายแหลมที่เตรียมไว้แล้ว มากลัด หรือเสียบจากด้านบนของริ้วให้ทะลุไปยึดติดกับโฟมที่รองไว้บนพื้นพาน

          การประกอบริ้วกับพานชั้นกลาง และชั้นบนสุด ก็ใช้วิธีเดียวกัน แต่จะต้องให้ริ้วชั้นที่ 2 วางสลับกับริ้วชั้นแรก และริ้วบนพานชั้นบนสุด ก็ให้สลับกับริ้วบนพานชั้นกลาง

          การประกอบริ้วกับพานชั้นบนสุด ให้ห่อใบตองเป็นกรวยขนาดใหญ่พอควรวางไว้เป็นแกนกลางของพาน เมื่อวางริ้วทั้ง 4 ริ้วเสร็จแล้ว ให้รวบปลายสุดของริ้วทั้ง 4 เข้าหากัน โดยมีกรวยที่ทำเป็นแกนกลางอยู่ด้านใน แล้วนำใบตองม้วนเป็นกรวยขนาดใหญ่อีกกรวย มาครอบทับยอดทั้ง 4 ของริ้วไว้ ซึ่งจะทำให้พานบายศรีที่ได้ มียอดแหลมที่สวยงามและมั่นคง

          จากนั้นจึงนำใบไม้ (ส่วนใหญ่จะนำใบไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ใบเงิน ใบทอง ) มาวางรองบนพาน เพื่อปกปิดไม่ให้มองเห็นโฟมที่รองพื้นพาน และนำดอกไม้สีสด เช่น ดอกบานไม่รู้โรย หรือดอกดาวเรือง มาประดับบนพานเพิ่มความสวยงามหรือทำมาลัย สวมบนยอด หรือทำเป็นอุบะร้อยรอบพานแต่ละชั้น ก็จะเพิ่มสีสัน และความสวยงามให้แก่พานบายศรีมากขึ้น

          ขั้นตอนและวิธีทำบายศรี ก็มีอยู่เพียงเท่านี้ หมั่นศึกษาจากซีดีประกอบการสอนนี้ และฝึกฝนบ่อยๆ นักเรียนก็จะสามารถทำบายศรีได้ด้วยตนเอง และมีฝีมือสามารถทำบายศรีใช้ในงานพิธีต่างๆ และทำเป็นอาชีพ นำรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัวในที่สุด

  

ข้อพึงระวัง ->

เมื่อห่อริ้วจนเสร็จในแต่ละริ้วแล้ว จึงนำริ้วที่ได้ลงแช่ในน้ำผสมสารส้มที่เตรียมไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้ใบตองเข้ารูปทรง อยู่ตัวตามที่ได้พับและห่อ จากนั้น จึงนำไปแช่ในน้ำผสมน้ำมันมะกอกต่อไป เพื่อให้ริ้วมีความเป็นมันวาว เน้นสีเขียวแข้มของใบตองมากขึ้น และมีกลิ่นหอมในตัวเอง

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา