ความรู้สัมมาชีพชุมชน

image1

เพาะเห็ดนางฟ้า

โดย : นายปรัชญา จิตตคุปต์ วันที่ : 2017-03-16-17:52:01

ที่อยู่ : 4 ม.1 ต.สันผีเสื้อ

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

              ปัจจุบัน การประกอบอาชีพทางเกษตรกรรมตามแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีการน้อมนำเอามาปฏิบัติกันทั้งในระดับครัวเรือนและระดับชุมชนมากขึ้น          ในประเทศไทยเรา เพื่อให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน และประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้

               นายปรัชญา    จิตตคุปต์   ซึ่งเป็นผู้นำ อช.ตำบลสันผีเสื้อ  อำเภอเมืองเชียงใหม่  มีอาชีพรับจ้าง            แต่ก็ได้ไปอบรมหาความรู้จากหน่วยงานต่างๆ  เช่น สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ/จังหวัด  สำนักงานสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งงานด้านการเกษตร  จึงเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการเป็นวิทยากรกระบวนการ/วิทยากรด้านการเกษตรและด้านสาธารณสุข โดยได้นำเอาความรู้ความสามารถเหล่านี้ไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เป็นวิทยาทานให้แก่คนในหมู่บ้าน/ตำบล มาโดยตลอด

วัตถุประสงค์ ->

1.ผลิตเพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน

2.เพื่อจำหน่ายเป็นรายได้เสริม

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

วิธีการทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดนางฟ้า  มีความจำเป็นต้องหาวัสดุอุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมตัวก่อนดังนี้ เริ่มจากขี้เลื่อยไม้เนื้ออ่อน หรือขี้เลื่อยยางพารา ในส่วนของทางปฏิบัตินั้นขี้เลื่อยยางพาราจะเป็นตัวที่ให้ผลดีที่สุด จากนั้นให้หาส่วนผสมต่าง ๆ เพื่อให้เราได้คุณค่าทางอาหารมากยิ่งขึ้น ในส่วนของสูตรการทำก้อนเชื้อเห็ดนางรม ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้ามีส่วนผสมหลัก ๆ ดังต่อนี้

  1. ขี้เลื่อยยางพาราแห้งสนิท 100 กิโลกรัม
  2. หินปูนหรือผงชอล์ก 1 กิโลกรัม
  3. ข้าวโพดป่น 3 – 5 กิโลกรัม
  4. รำละเอียด 6 – 8 กิโลกรัม
  5. น้ำเปล่า 80 กิโลกรัม
  6. ปูนยิบซัม 1 กิโลกรัม
  7. ดีเกลือ 0.2 กิโลกรัม
  8. EM ปริมาณ 1 ลิตร                                                          เมื่อส่วนผสมมาครบแล้ว ให้ทำการตากกองขี้เลื่อยยางพาราไว้กับแดด ประมาณ 7 วัน จากนั้นค่อย ๆ เริ่มทำการผสม โดยให้เราทำการเติมน้ำเปล่าลงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วให้ทำการทดสอบโดยการกำส่วนผสม ถ้าหากว่ากำแล้วมีน้ำซึมออกมาตามง่ามมือนั้น แสดงว่าเพื่อน ๆ ผสมน้ำมากเกินไป แต่ถ้าหากบีบมือแล้วขี้เลื่อยแตกเป็น 3 ก้อน นั่นแสดงว่าการผสมใช้ได้ เราเรียกว่าพอดี แต่ถ้าว่าเรากำแล้วแบมือออก ขี้เลื่อยจับตัวไม่เป็นก้อน นั่นแสดงว่าเพื่อน ๆ เติมน้ำน้อยเกินไป เมื่อเราผสมเข้ากันได้ที่อย่างพอดีแล้ว ก็ให้ทำการกรอกใส่ถุงเพาะเห็ดนางฟ้า ถุงเพาะเห็ดนางรม ใส่ถุงให้ได้น้ำหนักประมาณ 800 – 900 กรัม แล้วหลังจากนั้นก็ให้เริ่มทำการรวบรวมปากถุงเห็ด กระทุ้งกับพื้นให้แน่นพอประมาณ แล้วให้ทำการใส่คอขวด วิธีเพาะเห็ดนางฟ้า  วิธีการหยอดเชื้อเห็ด เมื่อทำก้อนเชื้อเห็ดเสร็จแล้ว เราก็นำก้อนเชื้อที่ได้มาทำการหยอดเชื้อ และบ่มเชื้อเห็ดนางฟ้า เชื้อเห็ดนางรม ตามลำดับ ซึ่งก่อนอื่นเลย ก้อนเชื้อที่ได้มานั้นเราจะนำมาทำการนึ่ง ( เพื่อฆ่าเชื้อ ) ถ้ามีหม้อนึ่งความดันอยู่แล้วให้เพื่อน ๆ นึ่งที่ความดัน 25 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ให้ใช้ระยะเวลาในการนึ่งที่ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ถ้าหากไม่มีหม้อนึ่งความดันอาจให้เลือกใช้ หม้อนึ่งจากถังน้ำมัน 200 ลิตร แทนได้ โดยต้องทำการนึ่ง ประมาณ 3 ครั้ง ใช้อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส และใช้ระยะเวลาในการนึ่งประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ( ทำแบบนี้ 3 ครั้ง ) เมื่อผ่านขั้นตอนการนึ่งฆ่าเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะเริ่มทำการหยอดเชื้อเห็ดลงสู่ก้อนเชื้อที่ได้เตรียมไว้ เชื้อเห็ดจากเมล็ดข้าวฟ่างนั้น ควรหยอดเชื้อลงในประมาณ 20 – 25 เมล็ด เมื่อเราหยอดเชื้อลงสู่ก้อนเชื้อเห็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เราทำการปิดปากถุงก้อนเชื้อ หลังจากนั้นให้เพื่อน ๆ บ่มเชื้อเห็ดในขั้นตอนถัดไป การบ่มเชื้อนั้นต้องนำก้อนไปบ่มไว้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 20 – 25 วัน ซึ่งกรรมวิธีการบ่มเชื้อเห็ดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย เพียงแต่เราต้องเก็บให้เป็นระเบียบ ไม่ให้ไม่ถูกฝน ถูกแดด ลมไม่โกรก ไม่มีหนู ไม่มีแมลง ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

ข้อพึงระวัง ->

วิธีเก็บเห็ดนางฟ้า หลังจากทำการบ่มเชื้อเห็ดนางฟ้าในโรงเพาะเห็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาของการเปิดดอกเห็ด และทำการเก็บเกี่ยวดอกเห็ดนางรม ดอกเห็ดนางฟ้าของเรา เห็ดจะออกดอกเมื่อมีความชื้นสูงพอ ออกเมื่ออากาศไม่ร้อนมาก เมื่อเห็ดถูกเหนี่ยวนำด้วยอากาศเย็นตอนกลางคืน จะทำให้ออกดอกได้ดี เทคนิคที่ทำให้เห็ดนางฟ้า ออกดอกอย่างสม่ำเสมอ และเห็ดออกดอกใหญ่ ๆ สามารถทำได้ดังนี้  เมื่อเก็บดอกเห็ดเสร็จแล้ว ต้องทำความสะอาดหน้าก้อนเชื้อเห็ด โดยเขี่ยเศษเห็ดออกให้หมด แล้วงดให้น้ำประมาณ 3 วัน เพื่อให้เชื้อฟักตัว แล้วค่อยกลับมาให้น้ำอีกตามปกติ เห็ดของเราก็จะเกิดเยอะเหมือนเดิม และเมื่อเก็บดอกเห็ดเสร็จ ให้ทำความสะอาดหน้าก้อนเชื้อ แล้วรัดปากถุงเพื่อไม่ให้อากาศเข้า ทิ้งก้อนเห็ดไว้ประมาณ 2 – 3 วัน แล้วค่อยให้น้ำปกติ เมื่อเปิดปากถุงก็จะเกิดดอกที่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นวิธีการการเหนี่ยวนำให้เห็ดออกดอกพร้อมกัน เมื่อเห็ดออกดอก และบานจนได้ขนาดที่ต้องการแล้ว ให้เริ่มเก็บดอกโดยจับที่โคนดอกทั้งช่อ คือ โยกซ้าย – ขวา – บนล่าง แล้วให้ดึงออกจากถุงเห็ด ต้องค่อย ๆ ระวังอย่าให้ปากถุงเห็ดบาน ถ้าดอกเห็นโคนขาดติดอยู่ ให้เราแคะออก และทิ้งให้สะอาดเพื่อป้องกันการเน่าเสีย ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดหนอนจากการวางไข่ของแมลงได้ วิธีการการดูลักษณะดอกเห็ดที่ควรเก็บนั่นก็คือ ดอกไม่แก่ หรือดอกไม่อ่อนจนเกินไป ให้ดูที่ขอบดอก ถ้ายังงุ้มอยู่คือดอกที่เหมาะแก่การเก็บเกี่ยว แต่ถ้าขอบยกขึ้นแสดงว่าแก่แล้ว เป็นดอกเห็ดที่แก่จัด และจะออกสปอร์เป็นผงขาวด้านหลังดอกเห็ด เราต้องรีบเก็บออก เพราะสปอร์จะเป็นตัวชักนำแมลงเข้ามาในโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้า

รูปประกอบ -> image1

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา