ความรู้สัมมาชีพชุมชน

เกษตรพอเพียงตามรอยในหลวง

โดย : นายจันทร์แก้ว กาอินทร์ วันที่ : 2017-04-20-23:17:08

ที่อยู่ : 200 ม.2 ต.แม่อาย

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

"เกษตรทฤษฎีใหม่" ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในแบบฉบับครัวเรือนที่ใคร ๆ ก็ทำตามได้ แล้วจะรู้ว่าในหลวงแค่อยากเห็นคนไทยพึ่งพาตนเองได้

วัตถุประสงค์ ->

ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อบริโภค

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ดิน พันธุ์พืช เมล็ด ปุ๋ยหมัก

อุปกรณ์ ->

จอบ เสียม กระถาง

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. แบ่งพื้นที่ในสวนให้เหมาะสมและคุ้มค่า

2. ระบบน้ำในบ้าน

3. ปรับดินให้มีคุณภาพด้วยการรับแสงแดดไม่ต้องฟุ่มเฟือยเพื่อบำรุงใหม่
         หากพบว่าสภาพดินในสวนไม่เอื้ออำนวยให้ปลูกพืชเท่าไร แนะนำให้พรวนดินและเปิดหน้าดินรับแสงแดดโดยตรง เพราะแสงแดดจะช่วยปรับสภาพดินให้มีสารอาหารที่เหมาะสมกับพืชหรือจะทำการผสมดินในขั้นตอนไปพร้อม ๆ กันเลยก็ได้ครับ
4. เลือกใช้กระถางที่ช่วยประหยัดน้ำและลดโลกร้อน
         วัสดุของกระถางต้นไม้ก็มีส่วนช่วยในการจัดสวนแบบพอเพียงได้เหมือนกัน เช่น กระถางที่ทำจากโลหะหรือสังกะสีจะดูดซับความร้อนจากแสงแดดเข้ามามาก ทำให้ดินขาดความชุ่มชื้นเพราะน้ำจะระเหยออกไปจนหมดและทำให้เราต้องรดน้ำบ่อยขึ้น ดังนั้นควรจะเปลี่ยนมาใช้กระถางที่สามารถกักเก็บความชื้นหรืออุ้มน้ำได้นาน ๆ แทน เช่น กระถางดิน ส่วนอีกหนึ่งวิธีก็คือการนำภาชนะเหลือใช้ในครัวเรือนมา DIY ใหม่ เช่น นำตะกร้าหรือขวดน้ำพลาสติกมาใช้ในการปลูกต้นไม้ ก็จะช่วยลดขยะไม่สร้างสภาวะโลกร้อนได้อีกทาง
5. ผสมปุ๋ยอินทรีย์ไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง
         เมินหน้าใส่ปุ๋ยเคมีแล้วหันมาลงมือผสมปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองกันดีกว่า ทั้งปลอดภัยไร้สารพิษและยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว ขอบอกก่อนเลยว่าปุ๋ยอินทรีย์นั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดคือ ปุ๋ยหมักจากซากพืชซากสัตว์ ปุ๋ยคอกจากมูลสัตว์ และปุ๋ยพืชสดจากพืชหน้าดินที่ย่อยสลาย แต่ในเมื่อสวนของเราเป็นฉบับครัวเรือน อาจจะทำตามทริคง่าย ๆ เหล่านี้ 
ปุ๋ยน้ำหมัก 
         นำมูลสัตว์ 1 ส่วนมาผสมกับใบไม้แห้ง แกลบ ฟางหรือหญ้าแห้งแค่ 1 ส่วน รำ 1 ส่วนให้เข้ากันและพักไว้ หันมาผสมกากน้ำตาล 40 ซี.ซี. กับน้ำเปล่า 10 ลิตร และจุลินทรีย์อีก 40 ซี.ซี. ให้เข้ากัน จากนั้นนำไปราดและคลุกเคล้ากับส่วนผสมแรกให้ได้เนื้อที่พอดีไม่เหลวและไม่แห้งจนเกินไป วางปุ๋ยให้เป็นกองเพื่อหมักทิ้งไว้อีกสักสัปดาห์ครึ่งก็เป็นอันใช้ได้

6. ความชุ่มชื้นของดินคือสิ่งที่ต้องรักษา
         อีกหนึ่งวิธีการทำสวนให้พอเพียงนั้นก็คือการรักษาความชุ่มชื้นของดินเอาไว้ หากเราปล่อยปละละเลยเรื่องเล็ก ๆ อย่างนี้ไปรับรองว่าคุณต้องนอนก่ายหน้าผากบนกองบิลค่าน้ำเป็นแน่ มาเริ่มกันที่วิธีแรกด้วยการรองใต้กระถางด้านในด้วยกระดาษทิชชู แพมเพิสชิ้นใหม่ หรือเสื้อถักไหมพรมตัวเก่าเอามาคลุมหน้าดินด้วยแกลบและปลูกหญ้าแฝกไว้รอบ ๆ สวน วิธีทั้งหมดนี้จะช่วยกักเก็บน้ำไว้ในดินได้อย่างเหมาะสมและส่งผลให้พืชพรรณเจริญเติบโตออกดอกออกผลอย่างสวยงาม 
7. ปลูกผักสวนครัวตามฤดูกาลให้มีกินตลอดทั้งปี
         สภาพอากาศตามฤดูกาลคือปัจจัยหลักที่ทำให้สวนอุดมสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ดังนั้นเราจึงควรหันมาปลูกพืชให้ตรงกับฤดูกาลเพื่อให้มีกินมีใช้ได้ตลอดทั้งปีกันดีกว่าค่ะ

     - ฤดูร้อนควรปลูกมะระ, บวบ, ผักชี, น้ำเต้า, ผักกาดหอม, ข้าวโพดหวาน หรือถั่วฝักยาว     - ฤดูฝน (ช่วงต้น) ให้ปลูกกวางตุ้ง, พริก, ผักกาดหอม, บวบ, ผักบุ้ง, มะเขือ, แตงกวา หรือกระเจี๊ยบเขียว
     - ฤดูฝน (ช่วงปลาย) ควรปลูกมะเขือเทศ, ขึ้นฉ่าย, แครอท, พริกหยวก, กะหล่ำปลี, ถั่วลันเตา หรือหอมใหญ่
     - ฤดูหนาวควรปลูกมะเขือเทศ, หอมใหญ่, ผักกาดขาว, ถั่วพู, ขึ้นฉ่าย, ผักชี, ตั้งโอ๋ หรือบรอกโคลี
8. ประเภทของพืชหลัก ๆ ที่ควรปลูกเอาไว้ในสวน
         เมื่อแบ่งพื้นที่ในสวนได้ตามที่ต้องการแล้วก็ควรจะเลือกพืชมาปลูกให้เหมาะสมตามประเภทหลัก ๆ ที่ควรจะมีไว้ใช้ประโยชน์ในบ้านดังนี้

     - พืชผักผลไม้แบบยืนต้นอย่าง มะม่วง กล้วย มะละกอ มะรุม และขนุน
     - พืชผักและไม้ล้มลุกอย่าง ถั่วฝักยาว มันเทศ มะเขือ มะลิ และซ่อนกลิ่น
     - พืชสมุนไพร เช่น พริกไทย หญ้าแฝก กะเพรา สะระแหน่ โหระพา ตะไคร้ บัวบก และพลู
     - เห็ดชนิดต่าง ๆ ที่ชื่นชอบ

9. สูตรไล่แมลงและศัตรูพืชแบบไร้สารพิษ
         ปัญหาศัตรูพืชเป็นเรื่องธรรมดาที่เราสามารถจัดการได้อยู่หมัดกับสูตร DIY ของในครัวเรือนโดยไม่พึ่งสารเคมีได้ดังต่อไปนี้ด้วยสูตรยาฆ่าแมลงปลอดสารพิษจากก้นครัว
     - สะเดา 
         ให้นำเมล็ดสะเดาไปล้างน้ำให้สะอาดและผึ่งแดดไว้ 4 วัน นำมาตำให้เป็นผงก่อนจะผสมกับน้ำเปล่าและทิ้งให้นอนก้น สุดท้ายให้กรองด้วยผ้าขาวบางก่อนจะนำไปฉีดพ่น
     - มะเขือเทศ 
         ให้นำผล ลำต้น หรือใบไปบดให้ละเอียดและผสมกับน้ำขี้เถ้า จัดการกรองกากใยให้เรียบร้อยก่อนนำไปใช้

10. แบ่งปันผลผลิตให้กับเพื่อนบ้านสร้างรากฐานความสัมพันธ์
         การปรับใช้ “เกษตรทฤษฎีใหม่” สำหรับสวนแบบพอเพียงในข้อสุดท้ายก็คือ การแบ่งปันและแลกเปลี่ยนผลผลิตกับเพื่อนบ้านและญาติพี่น้อง ซึ่งจะทำให้เราได้บริโภคผลผลิตที่แตกต่างออกไปจากเดิม ไม่จำเจอยู่กับพืชผลที่มีอยู่ แถมยังเป็นการรักษาความสัมพันธ์ของเพื่อนบ้านให้แน่นแฟ้นได้ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการสร้างรากฐานหมู่บ้านให้มั่นคงได้อีกด้วย
     

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา