การปลูกไม้ผล
โดย : นายจีรชัย พารินธร วันที่ : 2017-03-25-15:01:05ที่อยู่ : 261 หมู่ที่ 11 ตำบลเมืองนะ
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การปลูกไม้ผล เพื่อการบริโภคและจำหน่าย ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการประกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรม และสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างมาก เพราะการปลูกไม้ผลสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลายครั้งและสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ที่สามารถเก็บรักษาได้ยาวนานขึ้น แต่การปลูกไม้ผลจะต้องเรียนรู้การวางแผนและศึกษากระบวนการผลิตอย่างถูกต้องและเหมาะสมจึงจะทำให้การผลิตอย่างถูกต้องและเหมาะสมจึงจะทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ต้องสามารถหาตลาดจำหน่ายผลผลิตได้อีกด้วย
วัตถุประสงค์ ->
ปลูกเพื่อเป็นผลไม้ไว้รับประทาน เก็บผลไม้ขายสร้างความมั่นคงทางรายได้ และเพื่ออาศัยร่มเงาจากต้นไม้ผล
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
วิธีการปลูกและดูแลรักษา
การเตรียมหลุมปลูก ขนาดของหลุมปลูกที่จะใช้สำหรับปลูกไม้ยืนต้นนั้น หากสามารถเตรียมได้ขนาดใหญ่ยิ่งดี ขนาดของหลุม กว้าง-ยาว-ลึก ประมาณ 50-100 เซนติเมตร แล้วแต่ชนิดไม้ผลและสภาพพื้นที่ปลูก ถ้าดินดีก็ขุดหลุมปลูกขนาดเล็กได้ แต่ถ้าดินไม่ค่อยดี ควรขุดหลุมปลูกขนาดใหญ่ จะได้ปรับปรุงดินในหลุมปลูกให้ดีขึ้น แล้วผสมดินด้วยปุ๋ยคอกปุ๋ยหมัก เศษใบไม้ เมื่อคลุกเคล้ากันดี ให้กลบดินลงก้นหลุมก่อนปลูก
กิ่งพันธุ์ที่นำมาปลูก กิ่งพันธุ์ไม้ผลที่นำมาปลูกนั้นส่วนใหญ่จะใช้กิ่งทาบ กิ่งติดตา และกิ่งตอน ปกติกิ่งทาบหลังจากตัดแล้วจะถูกนำมาชำไว้ในกระถาง หรือถุงพลาสติกดำเป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะนำไปปลูก หากเป็นกิ่งตัดที่ตัดมาใหม่ๆจากต้นให้ตัดกิ่งให้มีจำนวนใบเหลือน้อยใบอ่อนที่มีอยู่จะทำให้น้ำระเหยได้มากกว่าส่วนอื่นจึงควรตัดทิ้งเสีย แช่กิ่งตอนใส่ถุงพลาสติก กระชุ หรือกระถาง โดยตุ้มตอนอยู่ต่ำกว่าระดับผิวดินประมาณ 2 นิ้ว ก่อนชำอย่าลืมแกะเอาเชือกและพลาสติกที่หุ้มออกด้วย จนกระทั่งกิ่งตอนตั้งตัวได้แข็งแรงดีแล้วจึงนำไปปลูก
วิธีปลูก เมื่อเตรียมกิ่งพันธุ์เรียบร้อยแล้วจึงลงมือปลูก โดยถ่ายกิ่งพันธุ์ออกจากกระถางหรือพลาสติกที่ชำไว้ ถ้ามีรากหุ้มด้านนอก ค่อยๆ คลี่ให้กางออก กิ่งตอนเวลาปลูกให้กลบดินบริเวณโคนต้น สูงกว่าระดับดินเดิมเล็กน้อย กิ่งทาบและกิ่งติดตา เวลาปลูกต้องให้รอยทาบหรือรอยติดตาสูงกว่าระดับดิน ข้อที่ควรระมัดระวังอย่างยิ่งคือ ต้องแกะผ้าพลาสติกที่พันรอยทาบออก เมื่อตั้งตัวแล้วอย่าลืมทิ้งไว้ เพราะเมื่อต้นไม้มีการขยายขนาดของกิ่ง ผ้าพลาสติกนี้จะไปรัดจนลงไปในส่วนของเนื้อไม้ทำให้กิ่งหัก หรือตายได้
การดูแลรักษา การดูแลรักษาไม้ผลหลังจากปลูกแล้ว นับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากความสมบูรณ์ของต้นจะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงผลผลิตที่จะได้รับการดูแลไม้ผลที่ควรปฏิบัติดังนี้
การค้ำกิ่ง สิ่งสำคัญในระยะที่ปลูกใหม่ๆ คือการตั้งตัวของต้นไม้ถ้าตั้งตัวได้เร็วก็มีโอกาสรอดได้มาก ทำให้รากสามารถหาอาหาร และใบสามารถสังเคราะห์แสงได้เร็ว ต้นก็จะเจริญเติบโตได้ดีขึ้น วิธีที่ช่วยให้ต้นไม้ที่ปลูกใหม่ตั้งตัวได้เร็วไม่เอนหรือล้มเพระแรงลม สัตว์ และอื่นๆ คือการค้ำกิ่งสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน อาจจะใช้ไม้รวก 1 อัน ปักยึด หรือใช้ไม้รวก 2 อัน หรือ 3 อัน ยาวประมาณ 1 เมตร ปักยึดเป็น 3 เส้า โดยให้ส่วนปลายหันเข้าหาต้นไม้ที่ปลูกไว้และมัดติดกับลำต้นต้องคอยดูบริเวณรอยมัดเสมอ หากแน่นเกินไปเนื่องจากต้นไม้มีการขยายตัว ควรคลายออก และเมื่อต้นไม้ตั้งตัวได้แล้วจึงปลดออก หรืออาจป้องกันไม่ใช้เชือกเป็นอันตรายกับต้นไม้โดยการใช้กระสอบป่านพันรอบๆ ลำต้นบริเวณที่ผูกเชือก
การคลุมดิน หลังจากปลูกเรียบร้อยแล้วควรใช้วัสดุเหลือใช้จากการเกษตรต่างๆ เช่น แกลบ ฟางแห้ง หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง ซังข้าวโพด และอื่นๆ ที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น คลุมดินบริเวณรอบๆ โคนต้น ซึ่งจะเกิดผลดังนี้
1 ) ช่วยรักษาความชื้นของดิน ป้องกันไม่ให้น้ำระเหยไปจากดินอย่างรวดเร็ว ลดแรงปะทะของเม็ดฝน และรดน้ำได้สะดวก ช่วยป้องกันการชะหน้าดิน และทำให้หน้าดินไม่จับตัวกันแน่น จึงเก็บซับน้ำไว้ได้ดี
2) ช่วยป้องกันวัชพืช ถ้าคลุมดินหนาพอ ทำให้ประหยัดแรงงานในการกำจัดวัชพืช
3) วัสดุคลุมดินเมื่อสลายตัว ก็จะกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์เป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุแก่ดินปลูกทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย ดูดซับน้ำได้ดี
การให้น้ำ ปกติการให้น้ำไม้ผลจะทำได้ง่ายสะดวกกว่าการให้น้ำพืชผัก และไม้ดอกไม้ประดับ หลังจากปลูกไม้ผลในระยะแรกๆ ควรรดน้ำทุกวัน จนกว่ากิ่งไม้ผลนั้นจะตั้งตัวได้ แล้วจึงค่อยเว้นระยะเวลาหรือความถี่ในการลดน้ำ ปกติแล้วเมื่อไม้ผลมีขนาดใหญ่ขึ้นจะทนต่อสภาพความแห้งแล้งได้ดีพอสมควร เมื่อฝนตกอาจหยุดให้น้ำ ½ - 1 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและอายุของไม้ผลและสภาพของดิน ควรสังเกตจากอาการของต้นไม้ผลจะดีที่สุด อย่าปล่อยให้ขาดน้ำซึ่งจะมีผลต่อการให้ผลผลิต การให้น้ำควรให้น้อยแต่ปล่อยครั้งดีกว่าให้ครั้งละมากๆ แต่นานๆ ครั้ง นอกจากนั้นการมีวัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้น จะช่วยยืดระยะเวลาในการให้น้ำ ทำให้ประหยัดเวลาและแรงงานในการให้น้ำด้วย
การใส่ปุ๋ย ปุ๋ยที่ควรใส่ตั้งแต่เริ่มปลูกคือปุ๋ยอินทรีย์ จะช่วยปรับปรุงคุณภาพของดินให้ร่วนเหมาะแก่การเจริญเติบโต ปรับสภาพความเป็นกรดหรือด่างจัดให้มีสภาพเป็นกลาง และเป็นแหล่งของธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ควรใส่อย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง ส่วนการใส่ปุ๋ยเคมีควรแบ่งใส่ครั้งละน้อยๆ เพราะปุ๋ยเคมีสลายตัวเร็ว
ข้อพึงระวัง ->
ระยะที่ต้องระมัดระวังอย่าให้ขาดน้ำ คือ ระยะที่เริ่มออกดอก งดน้ำระยะเวลาที่ดอกบาน เมื่อติดผลแล้วจึงให้น้ำอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผล