ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เนื่องจากในหมู่บ้านผู้คนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม(ทำสวนทุเรียน) และใช้สารเคมีกันเยอะมาก ทำให้เกิดภาวะมลพิษในหมู่บ้าน จึงคิดทำน้ำหมักชีวภาพ เพื่อลดการใช้สารเคมี ในหมู่บ้าน

วัตถุประสงค์ ->

๑. เพื่อลดมลพิษทางน้ำ อากาศ  และในดิน จากการทำสวนของเกษตรกร

๒. เพื่อลดต้นทุนในการทำสวนของเกษตรกร

๓. เพื่อสุขภาพที่ดีของเกษตรกร

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

วัตดิบ : สำหรับการทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อการเกษตร เราสามารถเลือกส่วนผสมจาก พืช ผลไม้สุก หรือสัตว์ อย่างหอยเชอรี่ อย่างใดอย่างหนึ่ง ในการทำน้ำหมักชีวภาพได้ ดังนี้

       ๑. สับวัตถุดิบเป็นชิ้นเล็กๆ  ๓  ส่วน

       ๒. กากน้ำตาล  ๑ ส่วน (อาจใช้น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว ผสมน้ำมะพร้าว  ๑  ส่วนแทนได้)

       ๓. น้ำเปล่า  ๑๐ ส่วน

  

อุปกรณ์ ->

๑. ถังพลาสติกทรงกระบอก ขนาดบรรจุ ๑๒๐ ลิตร พร้อมฝาปิดล็อค

๒. ภาชนะสำหรับเตรียมวัตุดิบ เช่น ถัง  กะละมัง ขันน้ำ ฯลฯ

๓. มีดสำหรับหั่นวัตถุดิบ

๔. สายยางต่อก๊อกน้ำเพื่อทำความสะอาด

๕. อุปกรณ์อื่นๆ ตามความจำเป็น

กระบวนการ/ขั้นตอน->

วิธีทำ : นำวัตถุดิบ(ตามอัตราส่วน)ทั้งหมดมาคลุกเคล้ากัน แล้วบรรจุลงในถังหมักพลาสติก หรือขวดปิดฝาเก็บไว้ในที่ร่ม นานประมาณ ๓ เดือน แล้วจึงสามารถนำไปใส่เป็นปุ๋ยให้ พืช ผัก ผลไม้ได้ โดย

        ๑. ใช้น้ำหมักชีวภาพ อัตราส่วน ๑๐ ซีซี ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร เพื่อบำรุงใบ พืช ผัก ผลไม้

        ๒. ใช้น้ำหมักชีวภาพอัตราส่วน ๑๕ - ๒๐ ซีซี ต่อน้ำ ๒๐ ลิตร เพื่าอปรับปรุงบำรุงดิน ให้ดินร่วนซุย

        ๓. ใช้น้ำหมักชีวภาพ อัตราส่วน ๑ ส่วน น้ำ ๑ ส่วน เพื่อกำจัดวัชพืช

ข้อพึงระวัง ->

๑. หากใช้น้ำหมักชีวภาพกับพืช ต้องใช้ปริมาณเจือจาง เพราะหากความเข้มข้นสูงเกินไป อาจจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต และตายได้

๒. ระหว่างหมัก จะเกิดก๊าซต่างๆ ในภาชนะ ดังนั้นต้องหมั่นเปิดฝาออก เพื่อระบายแก๊ส แล้วปิดฝากลับให้สนิททันที

๓. หากใช้น้ำประปาในการหมัก ต้องต้มให้สุกเพื่อไล่คลอรีนออกไปก่อน เพราะครอรีนอาจเป็นอันตรายต่อจุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมัก

๔. พืชบางชนิด เช่น เปลือกสัม ไม่เหมาะในการทำน้ำหมักชีวภาพ เพราะน้ำมันที่เคลือบผิวเปลือกสัมเป็นพิษต่อจุลินทรีย์