ความรู้สัมมาชีพชุมชน

image1

การทำข้าวโปงจากข้าวไรซ์เบอรี่

โดย : นางสุทิน หาญกุดเลาะ วันที่ : 2017-03-16-14:04:39

ที่อยู่ : 13 หมู่ 9 บ้านท่าเดื่อ ตำบลบ้านยาง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ หมายเลขโทรศัพท์. 08-57658756

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

จากการรวมกลุ่มของสตรีทำขนมไว้กินในเทศกาลงานบุญของหมู่บ้าน และทำเป็นอาชีพเสริมหลังจากว่างงานในการทำนา เพื่อจำหน่ายในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง

2. วัตถุประสงค์

          เพื่อเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาขนมโบราณเอาไว้ และเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพเสริมให้ครัวเรือนมีรายได้

วัตถุประสงค์ ->

1. ข้าวเหนียวอย่างดี /ข้าวไรซ์เบอรี่

2. น้ำตาล

3. กะทิ

4. เกลือ

5. งา

6. น้ำมันพืช

7. ไข่แดงต้มสุก

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1. ข้าวเหนียวอย่างดี /ข้าวไรซ์เบอรี่

2. น้ำตาล

3. กะทิ

4. เกลือ

5. งา

6. น้ำมันพืช

7. ไข่แดงต้มสุก

อุปกรณ์ ->

1. มวยหรือหวดนึ่งข้าว

2. ครกมอง หรือครกกระเดื่องไฟฟ้า

3. ไม้พิมพ์ ใช้สำหรับทับก้อนข้าวเหนียวที่ปั้นเป็นก้อนกลมให้แบนออกเป็นแผ่นบาง

4. แผ่นพลาสติก ใช้สำหรับรองข้าวเหนียวที่จะนำมาทับด้วยไม้พิมพ์ ไม่ให้ข้าวเหนียวสัมผัสกับไม้พิมพ์

5. ผ้าตาข่ายเขียว สำหรับตากข้าวโป่งให้แห้งสนิท

6. เหล็กปิ้ง/ไม้ปิ้ง

 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. แช่ข้าวสารเหนียวในน้ำอย่างน้อย 12 ชั่วโมง จากนั้นนำข้าวเหนียวไปนึ่งให้สุก

2. นำข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ๆ ไปตำให้ละเอียด ซึ่งในสมัยก่อนจะใช้ครกมองหรือครกกระเดื่อง(ใช้เท้าเหยียบ) แต่ในปัจจุบันพัฒนาเป็นเครื่องกระเดื่องไฟฟ้าเพื่อช่วยทุนแรง

การตำข้าวถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญจะต้องได้ข้าวที่ละเอียดจริงๆ ถ้าไม่ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ข้าวโป่งที่ได้จะปิ้งออกมาไม่สวย เช่น ปิ้งแล้วข้าวโป่งไม่พอง มีไตแข็ง รสชาติไม่ดี เป็นต้น การตำข้าวจะต้องพรมน้ำตลอดเพื่อไม่ให้ข้าวติดครกติดสาก เมื่อข้าวเหนียวติดตัวกันดีแล้วนำส่วนผสมอื่นๆ ลงไปผสม ซึ่งได้แก่ น้ำใบเตย หรือน้ำแตงโม หรือน้ำดอกอัญชัน เกลือ น้ำตาลทราย งา น้ำกะทิสด ใส่ลงไปตำให้แหลกจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันและไม่ติดมือ

3. การแจะ คือ การทำให้เป็นแผ่นบางๆ นำข้าวเหนียวที่ตำละเอียดแล้วปั้นให้เป็นก้อนกลมๆ ขนาดเหมาะสมเท่ากับขนาดของแผ่นข้าวเกรียบว่าวที่ต้องการ โดยก่อนปั้นจะต้องทามือ และแผ่นพลาสติกด้วยน้ำมันพืชผสมกับไข่แดงต้มสุกเพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวติดมือและแผ่นพลาสติกปั้นข้าวเป็นก้อนกลมๆ แล้วใช้ไม้พิมพ์หรือเหล็กพิมพ์ทับให้เป็นแผ่นข้าวโป่งซึ่งมีหลายขนาดทั้งกลาง เล็ก ใหญ่

4. การตากแห้ง ลอกแผ่นข้าวเหนียวจากแผ่นพลาสติก นำไปวางไว้บนเสื่อหรือตาข่ายที่ขึงกับไม้ยาว ถ้าหากแดดดีๆ จะตากไว้ 1 วัน ถ้าแดดไม่มีอาจผึ่งไว้ 2 วัน ในระหว่างที่ผึ่งแดดต้องพลิกให้โดนแดดทั้งสองข้างเพื่อให้แห้งเร็วขึ้น เมื่อแห้งสนิทนำมาบรรจุในพลาสติก เก็บได้นานประมาณ 3 เดือน

5. การปิ้งข้าวโป่ง ก่อนจะนำมารับประทานต้องนำไปปิ้งไฟก่อน โดยใช้ไฟอ่อนๆ หมั่นกลับไปกลับมาให้สุกทั่วกันทั้งสองข้าง แผ่นข้าวโป่งจะยืดออก โป่งพอง กรอบ การปิ้งจะใช้ไม้ที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำด้วยไม้ไผ่ 2 อัน และตอนปลายไม้ไผ่ผ่าเป็นซี่ ไม้ข้าวจี และเรียกการจี่ข้าวโป่งว่า จี่ เกรียบ

ในสมัยก่อนนิยมนำก่อเป็นกองด้วยฟืนตรงลานบ้าน แต่ปัจจุบันนิยมใช้เตาถ่าน เตาแก๊ส หรือเตาไฟฟ้า เพราะสะดวกและไม่เป็นเขม่าควันขณะที่กำลังปิ้งไฟ การปิ้งควรพลิกข้าวเกรียบไปมาให้ได้ความร้อนเท่ากัน การพลิกต้องทำอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยใช้ไม้จี่ในการคอยรับและพลิกแผ่นข้าวเกรียบเพื่อให้แผ่นข้าวเกรียบสุกพองเสมอกัน

 

ข้อพึงระวัง ->

ควรตากในที่ร่ม อย่าให้โดนแสงแดดจ้าข้าวโปงจะกรอบ

การนำมารับประทาน การรับประทานข้าวโป่งควรรับประทานตอนที่สุกใหม่ๆ ซึ่งจะมีกลิ่นหอม รสหวาน และกรอบอร่อย เวลาหยิบจับควรมีความระมัดระวัง เพราะข้าวโป่งมีลักษณะบางมากอาจแต่หรือหักได้ง่าย แต่ถ้าหากทิ้งข้าวโป่งไว้จะไม่กรอบ ไม่อร่อย

รูปประกอบ -> image1 image2 image3

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดชัยภูมิ
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา