การปลูกพริก
โดย : นายเจียม สาริกา วันที่ : 2017-03-16-13:13:14ที่อยู่ : 109 หมู่ 9 บ้านท่าเดื่อ ตำบลบ้านยาง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เป็นอาชีพรองหลังจากการทำนาเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกช่องทางหนึ่ง และพื้นที่ก็เหมาะสมที่จะปลูกพริก ซึ่งเป็นพืชที่มีอายุการเก็บเกี่ยวระยะสั้น
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อเป็นแหล่งอาหารของครัวเรือน แบ่งปันชุมชน และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
2. เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การเกษตรผสมผสาน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
-เมล็ดพันธุ์พริก
-ปุ๋ยคอก / ปุ๋ยเคมี
-ฟาง
อุปกรณ์ ->
1. จอบ
2. เสียม
3. ทอระบบน้ำ
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การปลูกและดูแลรักษาพริก
เตรียมดินแปลงปลูก
พริกสามารถปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิด แต่ควรเป็นดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี ควรไถดินตากไว้ 7-10 วัน ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 3-4 ตัน/ไร่ ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 และควรใส่ปูนขาวหรือปูนมาร์ล เพื่อลดความเป็นกรดของดิน
การเพาะกล้า
ควรเพาะเมล็ดเป็นต้นกล้าในกระบะเพาะก่อน โดยห่อเมล็ดในถุงผ้า และแช่น้ำไว้ 1 คืนหรือแช่สารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น เบนเลท จากนั้นนำไปล้างผ่านน้ำไหลอย่างน้อย 30 นาที เก็บถุงผ้าไว้ในที่ร่มและชื้นอีก 2-3 วัน เมื่อเมล็ดงอกตุ่มรากสีขาวเล็กๆแล้วจึงนำไปเพาะใช้เมล็ด 50 กรัม/ไร่ ผลผลิต 6-7 ตัน/ไร่
การปลูก
ควรปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้น 50 ซม. ระหว่างแถว 70 ซม. ปลูกเป็นแถว ในเขตชลประทานควรยกแปลงให้ให้มีขนาดกว้าง 1 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร มีร่องทางเดินกว้าง 1 เมตร ร่องน้ำกว้าง 50 ซม.
การใส่ปุ๋ย
· ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 พร้อมกับการเตรียมหลุมปลูกในอัตรา 20 กิโลกรัม/ไร่
· เมื่อต้นกล้าตั้งตัวหลังย้ายปลูกแล้ว ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) อัตรา 25 กก./ไร่
· หลังปลูก 30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 25 กก./ไร่
· และใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 อัตรา 50กก./ไร่ เมื่อเริ่มติดผลอ่อนหรืออายุ 60 วัน หลังย้ายกล้า
การป้องกันกำจัดแมลง
ควรใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราคลุกเมล็ดก่อนปลูก เมื่อพบโรคระบาดให้ฉีดพ่นด้วยสาร เบนเลท หรือ ไดโฟลาแทน แมลงศัตรูที่สำคัญคือ เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน ฉีดพ่นป้องกันกำจัดทุกๆ 7 วัน ด้วยสาร แลนแนท โตกุไธออน หรือ สารสกัดจากเมล็ดสะเดา ส่วนไรขาวให้ฉีดพ่นด้วยกำมะถันผง ในการฉีดพ่นสารเคมีทุกครั้งควรเสริมปุ๋ยทางใบด้วย
การเก็บเกี่ยว
อายุเก็บเกี่ยวพริกช่อ ประมาฯ 90-105 วัน หลังย้ายกล้า สามารถเก็บผลผลิตได้มากกว่า 10 ครั้ง
ข้อพึงระวัง ->
1. อุณหภูมิ โดยพริกถือเป็นพืชที่ทนต่ออากาศร้อนได้ดี แต่ไม่ทนต่อสภาพอากาศหนาว อุณหภูมิที่ทำให้พริกเจริญเติบโต และติดดอก ติดผลได้ดีที่ตั้งแต่ 35 องศาเซลเซียส
2. ความชื้นดิน โดยพริกเป็นพืชที่ต้องการน้ำปานกลาง เจริญเติบโตได้ดีในดินชุ่มชื้น และระบายน้ำดี เหี่ยวตายได้ง่ายในสภาพน้ำขัง ปริมาณน้ำที่พริกควรได้รับอย่างต่ำที่ 100 มิลลิเมตร/เดือน
3. แสง เป็นส่วนที่มีผลน้อยต่อพริกในประเทศไทย เนื่องจากช่วงแสงในบ้านเรามีมากกว่า 12 ชั่วโมง จึงเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพริก
4. ความเป็นกรด-ด่างของดิน ซึ่งสภาพความเป็นกรด-ด่างของดินที่เหมาะสมต่อพริกจะอยู่ช่วงประมาณ 6-7 มีลักษณะเป็นกรดเล็กน้อย แต่สามารถทนต่อสภาพดินเค็มได้ดี แต่หากสภาพดินเป็นกรดจัดอาจปรับสภาพดินด้วยปูนขาวทุกครั้งก่อนปลูก
5. ความอุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งพริกมักเจริญเติบโตไดดีในสภาพดินที่มีความร่วนซุย มีอินทรียวัตถุ และระบายน้ำได้ดี รวมถึงแร่ธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่เพียงพอ