ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

สมัยก่อนประกอบอาชีพเป็นพนักงานโรงงาน พออายุมากขึ้น ได้ลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลญาติที่ป่วย  และต้องการดูแลสุขภาพตนเอง จึงประกอบอาชีพเสริมโดยการค้าขายอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยการเทคนิคในการพูด จึงทำให้การค้าขายประสบผลสำเร็จ จึงได้นำความรู้และประสบการณ์แนะนำบุคคลที่สนใจที่ต้องการจะฝึกการพูดในที่ต่างๆ รวมทั้งเป็นวิทยากรในการพูดของหมู่บ้าน

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อส่งเสริมการพูดในที่ต่าง ๆ

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

-

อุปกรณ์ ->

1.เครื่องฉาย    2.ซีดี   3.การนำเสนอ 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1.การเตรียมตัวคือหัวใจสำคัญ ให้เวลาตัวเองในขั้นตอนวางแผน เพื่อให้แน่ใจว่าการพูดจะเป็นธรรมชาติและมีความต่อเนื่องควรรู้ด้วยว่าท่าทางการพูดเป็นอย่างไร จากนั้น ก็พยายามนำเสนอคุณลักษณะด้านบวก ในขณะที่พยายามแสดงด้านลบให้น้อยที่สุด

                   2.การพูดในที่สาธารณะ จะไม่ต่างกับการตอบคำถามหน้าชั้นเรียน ก็จำเป็นจะต้องรู้ให้จริงในสิ่งที่พูด ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกและปรากฏตัวอย่างมีความมั่นใจ ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้ผู้ฟัง ฝึกท่าทางการพูด แม้ว่าการพูดในที่สาธารณะนั้น จะไม่ใช่การวิ่งแข่ง แต่มีบางสิ่งที่ต้องทำเพื่อเตรียมร่างกายให้เหมาะสม มันไม่ใช่แค่การรู้ว่าไม่ควรโยกตัวหรือเทน้ำหนักไปมาระหว่างขาสองข้าง

                   3.พูดจากกระบังลม มันจะช่วยให้พูดเสียงดังฟังชัด และคนฟังก็จะได้ยินคุณชัดเจนโดยไม่ดูเหมือนตะโกนหรือบีบเสียง ลองฝึกด้วยการยืนตัวตรงและเอามือวางทาบหน้าท้อง หายใจเข้าและออก แต่ละครั้งนับหนึ่งถึงห้า สลับกับหนึ่งถึงสิบ จะเริ่มรู้สึกว่าหน้าท้องผ่อนคลายลง และจะเหมาะมากเวลาที่พูดหรือหายใจจากภาวะดังกล่าว

                   4.ปรับโทนเสียง นึกให้ออกว่าเสียงมีความแหลมสูงหรือทุ้มลึกเกินไป หรือกระทั่งมีแต่สุนัขเท่านั้นที่สามารถได้ยิน พยายามผ่อนคลาย และยืนสบายๆ  และหายใจอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ค้นหาระดับเสียงที่ฟังสบายและน่าฟังมากขึ้นได้

                   5.หลีกเลี่ยงการหายใจจากลำคอหรือหน้าอกช่วงบน เพราะท่าทางทั้งสองแบบนี้สามารถทำให้กังวลและเกร็งลำคอมากขึ้น ผลที่ได้คือ จะเหมือนพูดบีบเสียงและไม่น่าฟัง ฝึกจังหวะการพูด คนเราจะพูดเร็วกว่าเดิม หากพูดแบบสนทนากันทั่วไป แต่การพูดแบบนั้นไม่เหมาะสมในการพูดในที่สาธารณะ เพราะคนฟังต้องการจะฟังให้ทันและยังต้องการเวลาในการคิดตามสิ่งที่พูดด้วย

                   6.พยายามพูดช้าลงและรอบคอบมากขึ้นกว่าการสนทนาทั่วไป จงทำให้แน่ใจว่า มีการหยุดในช่วงเปลี่ยนหัวข้อ หรือในช่วงเน้นหัวข้อสำคัญ เพื่อให้คนฟังได้ทำความเข้าใจและทบทวนสิ่งที่พูด

                   7.ฝึกการแปรเสียงและการออกเสียง การแปรเสียง คือ เน้นการออกเสียงบางตัวเพื่อให้คนฟังไม่สับสน โดยเฉพาะเสียงเหล่านี้: บ ป ด ท/ธ พ/ภ ค ข เป็นต้น ส่วนการออกเสียง คุณจำเป็นต้องแน่ใจว่าออกเสียงถูกต้องทุกคำ และอย่าลืมฝีกฝนคำที่ออกเสียงยากด้วย

                   8.อย่าใช้คำว่า เอ่อ อ้า  หรือคำในลักษณะเดียวกัน เช่น แบบว่า  ซึ่งอาจจะฟังดูโอเคในการสนทนาทั่วไป แต่ในการพูดในที่สาธารณะ มันจะทำให้ดูเหมือนไม่แน่ใจในสิ่งที่กำลังจะพูด

                   9.การจะกำหนดถ้อยคำและชั้นเชิงการพูดต่างๆ ต้องมีกระดาษโน้ตหรืออะไรบางอย่างจดไว้ หรือจะใช้จำเอาก็ได้

                   10.ไม่จำเป็นต้องเขียนสิ่งที่จะพูดลงไปทุกตัวอักษร แม้ว่าอาจจะเขียนบอกตัวเองไว้ว่า “หยุดหลังจากพูดประโยคนี้จบ” หรือ “พักหายใจตรงช่วงนี้” เพื่อที่จะทำได้โดยไม่ลืม

                   11.อารมณ์ขันเป็นสิ่งที่ช่วยให้บรรยากาศระหว่างคนพูดกับคนฟังเป็นกันเองมากขึ้น มีมุกบางอย่างที่สามรถใช้ได้ในการพูดในที่สาธารณะส่วนใหญ่ มันจึงเป็นเรื่องที่ดีหากปล่อยมุกเล็กน้อยในตอนเริ่มต้น เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายและแสดงความมั่นใจให้เห็น การเล่าเรื่องตลกที่มาจากสถานการณ์จริง ก็เป็นการใช้มุกหรืออารมณ์ที่เหมาะสม

                   12.กำหนดสิ่งที่คุณต้องการนำเสนอสู่คนฟัง คุณจะบอกเล่าข้อมูลใหม่ๆ หรือว่าจะนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ หรือว่าต้องการที่จะโน้มน้าวให้พวกทำบางสิ่ง สิ่งนี้จะช่วยให้คุณโฟกัสไปที่การพูดประเด็นหลักๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจะนำเสนอ

ข้อพึงระวัง ->

ในการพูดในที่ต่างๆต้องอาศัยประสบการณ์และการศึกษาเพิ่มเติม