ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ประชาชนมีรายได้น้อย แต่มีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น พื้นที่ทำการเกษตรขาดแคลนแหล่งน้ำ ทำให้ไม่ค่อยมีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ หลังฤดูทำนา จึงริเริ่มที่จะหาอาชีพเสริม โดยแปรรูปผลผลิตที่มีในชุมชน เป็นอาหารสำหรับบริโภค เพราะประชาชนต้องมีอาหารเพื่อดำรงชีพ ทั้งอาหารและขนมขบเคี้ยว จึงได้ทดลองทำข้าวเกรียบ ซึ่งสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน สามารถจำหน่ายได้ เนื่องจากมีราคาไม่สูงมาก และได้ปริมาณเหมาะสม และคนในชุมชนจะเป็นขนมคบเคี้ยวให้กับลูกหลาน รวมถึงใช้ในเทศกาลงานบุญของชุมชน

วัตถุประสงค์ ->

1.แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่มีในชุมชน เป็นการใช้ทรัพยากรในชุมชนให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ลดต้นทุนการผลิต      

2.สามารถจำหน่ายเป็นรายได้เสริม

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1.ฟักทอง บด 200 กรัม

          2.แป้งมันสำปะหลัง 250 กรัม

          3.เกลือป่น 2 ช้อนชา

          4.กระเทียมโขลกละเอียด 2 ช้อนชา

          5.พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

          6.น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

          7.น้ำเดือด

อุปกรณ์ ->

1.ชามปากว้างหรือหม้อเบอร์30

2.กระด้องตากแผ่นข้าวเกรียบ

3.ชั้นวางสำหรับรองตากแผ่นข้าวเกรียบ

4.มีด

5.เขียง

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1.คัดเลือกวัตถุดิบทีจะใช้ เช่น ฟักทอง

          2.นึ่งฟักทองให้สุก บดฟักทองให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

          3.ผสมแป้งมันสำปะหลัง ฟักทองบด กระเทียม พริกไทย เกลือ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน นวด ส่วนผสมให้เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำเดือดนวดไปเรื่อยๆ จนเข้ากันและปั้นได้

          4.นำส่วนผสมที่เข้ากันมาปั้นเป็นแท่งพอประมาณ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ห่อด้วยใบตองกล้วย

5.เรียงแท่งข้าวเกรียบลงในรังถึง ที่ทาน้ำมันพืชไว้ โดยระวังไม่ให้วางชิดกันมากเกิดไป เว้นช่องเพื่อให้ไอน้ำขึ้นมาได้

6.นึ่งในน้ำเดือดไฟแรงประมาณ 40 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่ถุงพลาสติก พักไว้ 1 คืน

          7.นำแท่งข้าวเกรียบมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ และนำไปตากแดดจนแห้งสนิท

          8.เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด/บรรจุถุงเพื่อจำหน่าย

ข้อพึงระวัง ->

๑.สามารถทำข้าวเกรียบได้หลากหลายรสชาติ โดยนำผลิตภัณฑ์ในชุมชน ประเภทอื่น ๆ เช่น เผือก/มันเทศ/เนื้อปลา/กุ้ง/วัตถุดิบธรรมชาติอื่น ๆ

2.ไม่ควรทิ้งให้ข้าวเกรียบแท่นแข็งจนเกินไป จะทำให้หั่นยาก และข้าวเกรียบจะแตก ไม่เป็นแผ่น

3.การทอดข้าวเกรียบควรทอดด้วยไฟอ่อน ๆ ทีละน้อย ๆ จะทำให้ข้าวเกรียบกรอบอร่อย

 4.ข้าวเกรียบที่ทอดแล้ว ควรเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่อากาศไม่สามารถเข้าได้ จะทำให้เก็บรักษาไว้