ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

เห็ดนางฟ้าสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นผัด  แกง  ต้ม  รวมถึงยำเป็นต้น  เห็ดนางฟ้าสามารถเพาะเชื้อไว้ภายในบ้าน  ภายในบริเวณที่มีความชื้นของอากาศ ก็สามารถเกิดดอกของเห็ดเพื่อให้เจ้าของบ้านเก็บมาสำหรับบริโภคได้

            ดังนั้น เห็ดนางฟ้าจึงจัดได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในการประกอบอาหารภายในครัวเรือนและสามารถดูแลทำให้เกิดดอกได้ง่าย  ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้านหนองหญ้าปล้อง  หมู่ 2  จึงได้เสนอโครงการฯ เพราะอยากให้สมาชิกของชุมชนมีเห็ดนางฟ้าไว้บริโภค  ถ้าเหลือก็สามารถจำหน่าย  เป็นการลดรายจ่าย  เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้

วัตถุประสงค์ ->

- เพื่อให้สมาชิกสามารถเพาะก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้าได้                                                            

- เพื่อให้สมาชิกมีเห็ดนางฟ้าไว้บริโภคในครัวเรือนได้                                                              

- เพื่อลดรายจ่าย และสามารถเพิ่มรายได้โดยการนำไปจำหน่ายได้

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

-

อุปกรณ์ ->

-

กระบวนการ/ขั้นตอน->

๑. ผสมอาหารเพาะเห็ด (ขี้เลื่อยไม้ยางพารา ๑๐๐ กก. + รำละเอียด ๕ กก. + ยิปซั่ม ๐.๕ กก. + ปูนขาว ๑ กก. + ดีเกลือ ๐.๒ กก.)

๒. บรรจุอาหารเพาะลงในถุงพลาสติกทนร้อน

๓. รวบปากถุงบีบไล่อากาศออก แล้วอัดถุงให้แน่น

๔. นำไปนึ่งฆ่าเชื้อด้วยถังนึ่ง ไม่อัดความดัน อุณหภูมิประมาณ ๙๕ – ๑๐๐ องศาเซลเซียส ประมาณ ๓ ชั่วโมง

๕. นำถุงอาหารเพาะเห็ดมาใส่เชื้อเห็ดนางฟ้า

๖. นำมาพักเชื้อประมาณ ๓๐ วัน

๗. นำไปเปิดดอก โดยการเปิดจุกสำลีออก

๘. เก็บผลผลิตและทำการรดน้ำ

ข้อพึงระวัง ->

โรคของเห็ดนางฟ้าภูฐาน ได้แก่ ราดำ ราเขียว ราจุดไข่ปลาและราส้ม ส่วนมากราดำและราเขียวจะเกิดในช่วงของการพักเชื้อ ทั้งนี้อาจจะติดเชื้อมาจากช่วงของการใส่เชื้อเห็ด เนื่องจากสถานที่ใส่เชื้อมีลมแรงหรือสถานที่ไม่สะอาด อาจเกิดจากขั้นตอนการนึ่งก้อนเชื้อที่ใช้ความร้อนไม่สูงพอ

การแก้ไข ควรนึ่งก้อนเชื้อ เห็ดด้วยความร้อนประมาณ ๙๕ – ๑๐๐ องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน ๓ – ๔ ชม. และควรมีสถานที่ที่ทำการใส่เชื้อสะอาดไม่มีลมพัดก็จะช่วยป้องกันโรคได้