ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ตั้งแต่บรรพบุรุษได้มีการโยกย้ายที่อยู่อาศัยหาแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์เพื่อเป็นแหล่งเพาะปลูกทำนา ทำไร่ ทำสวน และต่อมาได้มีการปลูกหม่อนตามหัวไล่ปลายนาเลี้ยงไหมกันอย่างแพร่หลายทำให้เกือบทุกครัวเรือนมีการเลี้ยงไหม และทอผ้าไหมไว้ใช้ในครัวเรือน  ซึ่งปัจจุบันคนอีสานทอเป็นเครื่องสมมาปู่ย่าเวลาแต่งงาน  และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม เมื่อมีการเลี้ยงไหมมากขึ้นทำให้ใบหม่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการ  บางคนต้องไปซื้อใบหม่อนเพื่อมาเลี้ยงไหมในราคากิโลกรัมละ  5  บาท  จึงได้เพิ่มพื้นที่ปลูกหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมเองและจำหน่ายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว

วัตถุประสงค์ ->

-เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

                -กิ่งพันธุ์หม่อน  

             -ปูนขาว  ปุ๋ย  สารเร่งราก

อุปกรณ์ ->

-จอบ  เสียม

            -เชือก  บัวรดน้ำ

            -ถุงดำ/ดินพร้อมปลูก

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การเตรียมกิ่งเพาะชำ

            1. กรอกดินพร้อมปลูก (ดิน/ แกลบดำ/ขาว/ปุ๋ยคอกผสมกัน) ใส่ถุงดำเตรียมไว้ตามจำนวนกิ่งหม่อน

            2. นำกิ่งพันธุ์หม่อนที่จะชำมาตัดเป็นท่อนขนาด  15  ซ.ม. จุ่มสารเร่งราก เสียบลงในถุงดำที่ใส่ดินไว้ใช้มือกดกิ่งพันธุ์ให้แน่น  และนำไปไว้ในที่ร่มใช้บัวรดน้ำเช้าเย็นประมาณ  45  วัน ใบหม่อนจะแตกกิ่งขึ้นใหม่

            การเตรียมแปลงดินสำหรับปลูก

1.       ไถพรวนดินและยกร่องสำหรับปลูกหม่อน  โดยโรยปูนขาวเพื่อฆ่าเชื้อราตากไว้  1  สัปดาห์

2.       ขุดหลุมตามแปลงที่ยกร่องและห่างกันประมาณ  50  ซ.ม.  ใส่ปุ๋ยคอกรองพื้นก้นหลุม  และนำกิ่งพันธุ์ที่ชำติด

แล้วมาปลูก  ช่วงแรกถ้าแดดแรงให้รดน้ำเช้าเย็น

3.       เมื่อต้นหม่อนปลูกติดแล้วประมาณ  2  สัปดาห์  ให้ใส่ปุ๋ยสูตร  16-16-16  และรดน้ำ  ดายหญ้า  พรวนดิน

ปกติ

4.       เมื่อต้นหม่อนโตสูงประมาณ  1  เมตร  สามารถเก็บใบหม่อนไปเลี้ยงไหมได้  ถ้าหากต้นหม่อนสูงสามารถตัดกิ่ง

ต้นหม่อนให้เหลือประมาณ  30  ซ.ม.  เพื่อให้ต้นหม่อนแตกกิ่งใหม่  และให้น้ำ  ใส่ปุ๋ย เหมือนเดิม

ข้อพึงระวัง ->

                 ต้องขยันรดน้ำพรวนดิน ดายหญ้าตลอด  เพื่อบำรุงต้นตอให้แข็งแรง  จะได้ยึดอายุการเก็บเกี่ยวเพิ่มขึ้น