การปลูกพืชปลอดสารพิษตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
โดย : นางสาวสุวรรณ์ พลับจีน วันที่ : 2017-03-20-13:47:34ที่อยู่ : 73 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองน้อย อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ดิฉันนางสาวสุวรรณ์ พลับจีน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลหนองน้อย เดิมดิฉันทำงานอยู่กรุงเทพฯคุณพ่อต้องการให้มาอยู่ช่วยทางบ้าน เพราะทางบ้านไม่มีใครมีแต่พ่อ กับแม่ ดิฉันจึงลาออกจากงาน และได้รับคัดเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านในปี พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบัน จากการที่พ่อมีอาชีพเกษตรกร ทำให้ดิฉันสนใจที่ทำอาชีพนี้ให้ประสบความสำเร็จ ดิฉันได้รับความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงจากสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอวัดสิงห์ เพราะหมู่บ้านได้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ และสำนักงานพัฒนาชุมชนได้คัดเลือกให้ไปอบรมโครงการลดความเหลื่อมล้ำตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (โครงการทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสน)
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อลดรายจ่ายในการซื้อสารเคมี
2. เพื่อเพิ่มรายได้ให้ผลผลิต
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. สถานที่ (พื้นที่)
2. กิจกรรม (การทำนา ทำสวน)
อุปกรณ์ ->
1. น้ำ
2. ปุ๋ยหมักชีวภาพ ปุ๋ยน้ำชีวภาพ
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การเตรียมดินและวิธีปลูก
ควรปลูกโดยวิธีปักดำเพื่อสะดวกในการกำจัดวัชพืช การเตรียมดินทำได้โดยใช้รถแทรกเตอร์หรือรถไถนาเดินตามไถดะเตรียมดินช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม จากนั้นตกกล้าในเดือนมิถุนายน- กรกฎาคม แล้วไถแปร-คราดน้ำขัง แล้วถอนกล้าข้าวมาปักดำในเดือนกรกฎาคม- สิงหาคม
- การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ในเบื้องต้นมีการไถกลบตอซังข้าวในนา นำฟางข้าวมาทำเป็นปุ๋ยหมักผสมกับปุ๋ยคอกแล้วนำกลับไปใส่ในนา ในนาปักดำควรปลูกพืชปุ๋ยสดร่วมด้วยโดยหว่านเมล็ดพืชปุ๋ยสดประมาณ 2 เดือนก่อนปักดำเพื่อให้พืชปุ๋ยสดเจริญเติบโตและสะสมน้ำหนักแห้งในปริมาณที่มากพอ ซึ่งชนิดพืชปุ๋ยสดที่มีศักยภาพสำหรับปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดก่อนนามีหลายชนิด เช่นถั่วเขียว ถั่วพุ่ม เป็นต้น
- การควบคุมน้ำและควบคุมวัชพืช
การทำนาดำช่วยควบคุมวัชพืชได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการดูแลคันนาเพื่อรักษาระดับน้ำขังในนาให้พอดีกับการเจริญเติบโตของข้าว ก็เป็นการควบคุมวัชพืชอย่างได้ผล
ข้อพึงระวัง ->
- การจัดการก่อนและหลังเก็บเกี่ยว
คุณภาพของข้าวได้รับผลกระทบจากขั้นตอนนี้มาก โดยเฉพาะจากการตกของฝนช่วงก่อน – หลังการเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตาม การจัดการแบบดั้งเดิมก็ใช้ได้ผลดี คือ ระบายน้ำออกนาให้แห้งพอดีในช่วงที่ข้าวสุกแก่ ใช้คนเก็บเกี่ยวแล้วตากสุ่มซัง 3-4 วัน หลังจากนั้นนำมารวมกองไว้รอคนนวดหรือใช้เครื่องนวดกองไว้ได้นานกว่า 30 วัน โดยข้าวยังคงมีคุณภาพดี การใช้เครื่องนวดข้าวจะต้องระวังกรณีที่เปลี่ยนจากข้าวเหนียวเป็นข้าวเจ้า เพราะจะเกิดการปนของข้าวที่ติดอยู่ในเครื่องนวด จึงต้องเป่าหรือล้างทำความสะอาดเครื่องนวดก่อน ข้าวเปลือกที่ได้จะมีความชื้นเฉลี่ย 13-15 % ตามมาตรฐาน นำไปเก็บรักษาในยุ้งฉางหรือใส่กระสอบป่านที่ทำความสะอาดและคัดชิ้นส่วนข้าวที่ติดมากับกระสอบเดิมแล้ว ทั้งนี้ จะต้องติดรหัสของนาข้าวหรือของเกษตรกรที่กระสอบข้าวด้วย