พิธีจัดขันหมากแต่งงานประเพณีไทย
โดย : นางรุจิรา จิตอารี วันที่ : 2017-03-13-09:19:30ที่อยู่ : 87/21 ม.7 ต.หนองรี อ.เมืองชลบุรี
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ปัจจุบันสังคมไทยเราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับประเพณีการจัดขันหมากเท่าไร สังเกตได้จากปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น อาทิ ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน อยู่กินกันก่อนแต่งงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสังคมไทย แต่ก็ยังมีคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ ในการปลูกฝังค่านิยมอันดีเกี่ยวกับการครองเรือนให้กับคนไทยในสมัยนี้
หลังจากที่ฝ่ายชายส่งเฒ่าแก่หรือพ่อสื่อแม่สื่อ ไปเจรจาสู่ขอกันเป็นที่ตกลงแล้ว บางครั้งทางผู้ใหญ่ต้องการให้มีการหมั้นกันไว้สักระยะหนึ่งก่อน แล้วจึงทำการแต่งในภายหลัง เพื่อให้หนุ่มสาวมีโอกาสดูใจหรือศึกษาอุปนิสัยใจคอกันได้มากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องมีการกำหนดฤกษ์ยามในวันหมั้น รวมทั้งกำหนดสินสอดทองหมั้นหรือที่เรียกว่า ขันหมากหมั้น
เมื่อถึงกำหนดฤกษ์ตามที่ได้ตกลงกันไว้ ฝ่ายชายจะจัดเตรียมขันหมากหมั้นเพื่อยกไปทำการหมั้นฝ่ายหญิง โดยมอบหมายให้เฒ่าแก่ฝ่ายชายเป็นผู้นำไปมอบให้เฒ่าแก่ฝ่ายหญิง เฒ่าแก่ของฝ่ายชายนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนเดียวกับที่ไปทำการเจรจาสู่ขอ หรือจะให้ผู้อื่นทำหน้าที่แทนก็ได้ เพราะไม่ค่อยถือเหมือนเฒ่าแก่ขันหมากตอนแต่งซึ่งควรจะเป็นเฒ่าแก่คนเดียวกับที่ไปเจรจาสู่ขอ เฒ่าแก่ขันหมากหมั้นนิยมใช้สามีภรรยาที่อยู่กินกันมาด้วยความผาสุก โดยไปด้วยกันทั้งคู่เป็นการถือเคล็ดชีวิตคู่ ในบางแห่งอาจเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงเป็นผู้ทำหน้าที่เฒ่าแก่ขันหมากหมั้นเพียงคนเดียวก็ได้
เกี่ยวกับการจัดขันหมากหมั้น นอกจากเงินทองค่าสินสอดตามที่ตกลงกับทางฝ่ายหญิงไว้แล้ว สิ่งที่ต้องจัดเตรียมไปในขันหมากหมั้นนั้น ในแต่ละท้องถิ่นอาจแตกต่างกันไป เช่น ใช้หมากดิบทั้งลูก 8 ผล พลู 4 เรียง บรรจุลงในขันใบหนึ่ง สำหรับอีกขันหนึ่งมีขนาดเล็กกว่าใช้บรรจุเงินทองหรือของหมั้น เช่น สร้อย แหวน กำไล ฯลฯ บางทีแยกขันหมากเป็น 2 คู่ คือใส่หมากพลู 1 คู่ และใส่ของหมั้น 1 คู่ บางทีก็ไม่แยก แต่เพิ่มขึ้นใส่ใบเงินใบทอง ถุงข้าวเปลือกถั่วงาอีกขั้นหนึ่ง ไม่จัดปนอยู่ในขันหมากพลูและขันเงินขันทอง นอกจากขันหมากพลูแล้ว ยังต้องจัดเตรียมเครื่องขันหมาก อันประกอบด้วยขนมและผลไม้ มากน้อยแล้วแต่ตกลงกันไว้ บางทีอาจเพิ่มสุราหรือเครื่องเซ่นสำหรับไหว้ผีบรรพบุรุษก่อนทำพิธีหมั้นด้วย
ประเพณีการจัดขันหมากในงานแต่งงาน ในขบวนจะแบ่งออกเป็น "ขันหมากเอก" และ "ขันหมากโท" ติดตามด้วยเหล่าบริวารขันหมาก ส่วนรูปตามแบบฉบับฝีมือชาววังที่นิยมทำกันนั้น มี 2 แบบ คือ แบบใช้พลูจีบ กับ แบบที่ไม่ใช้พลูจีบ โดยทั้ง 2 แบบ จะใส่หมากพลูเป็นจำนวนคู่ อย่าง คู่ 4 หรือ คู่ 8 นำมาจัดเรียงให้สวยงาม สาเหตุที่ต้องมีการใส่หมากพลูลงไปในพานขันหมาก ก็เพราะในสมัยก่อนนิยมกินหมาก จึงมีการใช้หมากพลูเป็นเครื่องต้อนรับ เพื่อแสดงไมตรีจิต และหมายถึงความยินดีต้อนรับอย่างเป็นกันเองด้วยไมตรีจิต ซึ่งนอกจากพานขันหมากเอกแล้ว ยังมีพานต่าง ๆ ที่ฝ่ายชายจะต้องเตรียมทั้งหมดเพื่อแห่ในขบวนขันหมาก
วัตถุประสงค์ ->
อนุรักษ์สืบสานประเพณีไทย
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. ต้นอ้อย 4 ต้น
2. พานเงิน พานทอง
3. ใบเงิน ใบทอง ใบนาค ใบรัก อย่างละ 2 ใบ
4. พานถั่ว งา อย่างละ 1 พาน
5. ผ้าไหว้พ่อ แม่ เจ้าสาว
6. เทียนไหว้ 2 เล่ม
7. หมูดิบ 2 ชิ้น ๆ ละ 6 กิโลกรัม
8. เหล้า
9. วุ้นเส้น 4 ห่อ
10. หมากดิบ 8 ลูก
11. ใบพลู
12. ไข่ต้ม 8 ฟอง
13. ขนมจีนจับยาว 4 จับ
14. เป็ด ไก่ 1 คู่
15. ขนมกง หรือฝอย 10 กง
16. ขนมข้าวเหนียวแดง กาละแม ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เมล็ดขนุน ลูกชุบ
17. กล้วยน้ำว้าดิบ 8 หวี
18. ผ้าแพรสีชมพู
19. ใบพลูจีบ
20. ดอกบายไม่รู้โรยสีชมพู
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
คู่ที่ 1 ต้นอ้อย 4 ต้น ข้างละ 2 ต้น รัดด้วยกระดาษเขียว แดง 1 คู่ ชะลอมมะพร้าว 2 ชะลอม ชะลอม 1 ลูก มีมะพร้าว 4 ลูก มะพร้าวต้องปอกเปลือกแต่งให้สวย และต้องเอาหัวขึ้น ( ถ้าซื้อตามตลาดเขาจะเอาตูดลูกขึ้น จะใช้ไม่ได้ ถือว่าเป็นการไม่ถูกต้อง) ส่วนชะลอมต้องใช้ชะลอมสามเหลี่ยม เวลาเดินในขบวน คนถืออ้อย กับชะลอมมะพร้าว ต้องถือไปด้วยกัน คือ ถืออ้อย และหิ้วชะลอมมะพร้าวด้วย ทั้ง 2 คน คิดเป็น 1 คู่
คู่ที่ 2 พานสินสอด ในพานมีเงิน ทอง ตามที่ได้มาตกลงสู่ขอกัน ในพานมีใบเงิน ใบทอง ใบนาค ใบรัก ใช้อย่างละ 1 คู่ ( 2 ใบ ) ใส่ไว้ก้นพาน ใช้ผ้าแพรสีชมพูคลุม และขันพลูจีบ สำหรับไหว้ พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย พลูจีบต้องเสียบด้วยดอกบานไม่รู้โรย สีชมพูสด
คู่ที่ 3 พานถั่ว งา โดยใช้เม็ดถั่วเขียว กับงาดำ อย่างละ 1 พาน ความหมายของถั่วงา เป็นพืชที่นำไปหว่าน ขยายพันธุ์ได้ง่าย จึงมีความหมายว่าให้ชีวิตรักของบ่าว สาว มีความเจริญงอกงาม เหมือนเมล็ดถั่ว เม็ดงา
คู่ที่ 4 ผ้าไหว้ เทียนไหว้ ผ้าที่ฝ่ายเจ้าบ่าว ต้องนำไปไหว้พ่อแม่ เจ้าสาว พร้อมเทียนไหว้ ใช้เทียนไข 2 เล่ม รัดด้วยกระดาษสีเขียว สีแดง หรือสีทอง โดยรัดหัว ท้าย ของเล่มเทียน เป็นข้อสันนิษฐานว่า สมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าส่องทางเหมือนปัจจุบัน ถ้าแขก หรือญาติผู้ใหญ่อยู่ร่วมงานจนมืดค่ำจะได้มีเทียนส่องทางกลับบ้าน อีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือ ขอให้ความรักของบ่าว สาว จงสว่างไสว คล้ายแสงเทียน ก็ได้ สำหรับเทียน เวลาไหว้จะให้บ่าว สาว ไหว้พ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่ ไหว้พร้อมพลูจีบ โดยใส่พานไหว้พร้อมกัน และให้ญาตินำกลับไปด้วย ถือเป็นสิ่งของมงคล
คู่ที่ 5 หมู เหล้า โดยทางพื้นที่นี้ จะใช้หมูที่เป็นเนื้อแดงติดมัน จำนวน 2 ชิ้น น้ำหนักชิ้นละ 6 กิโลกรัม นำมานึ่งแล้วนำมาผ่า แผ่ออกให้สวยงาม ใช้เหล้าขาวตั้งตรงกลางหมู หมูนี้เมื่อตา ยาย คนเก็บขันหมากฝ่ายเจ้าสาวจะเก็บคนละข้าง ในส่วนของเจ้าสาวจะนำไปไหว้ผีเรือน
คู่ที่ 6 วุ้นเส้น 4 ห่อ นำใส่ถาดข้างละ 2 ห่อ วุ้นเส้นก็ต้องรัดด้วยกระดาษสีเขียว สีแดง รัดหัว ท้าย ห่อละ 2 เส้น ความหมายคือ ขอให้ความรักของคู่บ่าว สาว จงยืนยาว เหนี่ยวแน่น เหมือนวุ้นเส้น
คู่ที่ 7 เป็นขันหมากเอก คู่ที่ 1 ใส่หมากข้างละ 4 ลูก 2 ข้าง รวมเป็น 8 ลูก ความหมายคือ ที่มาของขันหมาก โดยใช้หมากเดิมตัดเป็นคู่ อย่าให้ขาดจากกันเวลานำไปไหว้ผีบ้าน ผีเรือน เก็บไว้ข้างละ 1 คู่ จะเหลือคืนให้กับฝ่ายเจ้าบ่าว 1 คู่ เท่ากัน
คู่ที่ 8 ในขันจะมีใบพลูที่มีใจตรงกลางใบพลู ขันละ 8 ใบ เวลาเก็บจะเก็บขันละ 4 ใบ
คู่ที่ 9 ไข้ต้ม จะใช้ไข่เป็ดเพราะเปลือกจะหนากว่าไข่ไก่ นำมาย้อมสีชมพู ใส่ขันละ 8 ใบ เวลาเก็บจะเก็บขันละ 4 ใบ ความหมายของไข่ คือ บ่าว สาวจะทำการสิ่งใดก็ขอให้ง่ายเหมือนปอกเปลือกไข่ต้ม
คู่ที่ 10 ในขันใบนี้จะมีขนมจีนจับยาวพิเศษ (ต้องสั่งทำ) ใส่ขันละ 4 จับ เวลาเก็บให้เหลือ 2 จับ คือ 1 คู่ และบางบ้านในขันจะใส่ห่อหมก ขันละ 4 ห่อ แต่ตอนที่ข้าพเจ้าได้ครอบครู ครูไม่ให้ใส่ห่อหมกลงไปในขัน ท่านให้เหตุผลว่า วันแรกของการเริ่มต้นชีวิตคู่ ก็จะมีการหมกกันแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้ปฏิบัติตามที่ครูบอกตลอดมา สำหรับความหมายของขนมจีน ก็คือ ขอให้มีความรักยืนยาว เหนียวแน่น เหมือนเส้นขนมจีน สมัยก่อนขนมจีน จะใช้วิธีหมักแป้ง เวลาโรยเป็นเส้นจะยาวเหนียวกว่าสมัยนี้
คู่ที่ 11 เป็ด ไก่ มีชีวิต อย่างละ 1 คู่ โดยใช้ไก่ เป็ด รุ่นสาว จะนำไก่และเป็ดมาใส่ชะลอม ผูกปากชะลอม ๆ ที่ใช้จะใช้ชะลอมก้นสี่เหลี่ยม (สมัยนี้จะใช้เป็ด ไก่ ที่เป็นขนม ใช้ฝอยโรย ทำเป็นเป็ด จะใส่สีเขียว ไก่จะเป็นสีเหลือง เพราะสมัยนี้ถ้าใช้เป็ดไก่ มีชีวิต เสร็จพิธีแล้ว บ่าว สาว ต้องนำไปเลี้ยง ซึ่งจะเป็นการยุ่งยากและไม่สะดวก เลยใช้เป็นขนมแทน
คู่ที่ 12 เป็นขนมกง หรือฝอย 1 คู่ จะมี 10 กง ใส่ถาดข้างละ 5 กง เก็บ 1 กง จะเหลือถาดละ 4 กง ขนมกงอย่างน้อยต้องใช่ 4 คู่ สมัยก่อนเมื่อรับไหว้จะต้องห่อขนมในขบวนพิธีแจกญาติผู้ใหญ่ที่มาให้คู่บ่าว สาวไหว้นำกลับไปกินเพื่อเป็นสิริมงคล เพราะของทุกอย่างที่อยู่ในขบวนขันหมากจะได้รับน้ำพระพุทธมนต์แล้ว แต่ปัจจุบันบางคนก็ไม่รับ เนื่องจากเป็นขนมมีรสหวาน ขนมที่ใช้จะมีข้าวเหนียวแดง กาละแม ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ลูกชุบ ขนมเหล่านี้จะเป็นขนมมงคลและมีสีสันสวยงาม
คู่สุดท้าย จะเป็นกล้วยน้ำว้าดิบ แต่ละหวีเมื่อนับจำนวนลูกแล้วต้องให้เป็นเลขคู่ ถ้าหวีใดเป็นเลขคี่จะใช้ไม่ได้ ใส่ถาดละ 4 หวี เป็นคู่สุดท้ายของขนวนขันหมากเอก
สิ่งสุดท้ายคนอุ้มขันหมากทั้ง 8 ขัน จะต้องเป็นหญิงที่แต่งงานแล้ว และต้องแต่งงานที่มีขันหมากเอกด้วย จึงจะไปอุ้มขันได้ การแต่งตัวของการอุ้มขันหมากเอก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพื้นบ้านเรา ต้องนุ่งเขียวใส่ขาว ห่มสไบแพร่จีบสีทอง เท่านั้น สำหรับคนยกขันหมากเอก ต้องใช้ทั้งหมด 10 คน อุ้มขันหมาก 8 คน เป็ด ไก่ 2 คน ส่วนขนมและสิ่งของอื่น ๆ ใครอุ้มก็ได้ไม่ได้กำหนด เมื่อจัดวางของขันหมากเรียบร้อยแล้ว จะมีการปักธงกระดาษสีแดง ธงปักชะลอมมะพร้าวจะใหญ่กว่าของอย่างอื่น
ผู้จัดขันหมากหรือผู้รู้ในพิธีนี้ ได้รับเกียรติจากคนในพื้นที่และนอกพื้นที่เชิญให้ไปทำพิธีนี้ ปีละหลายสิบคู่ จะเชิญไปทั้งจัดขันหมาก เก็บขันหมาก ปูที่นอน จากการสอบถามผู้ที่มาเชิญคู่ของข้าพเจ้าในการจัดพิธีขันหมาก จะได้รับคำตอบว่ามีความมั่นใจและเชื่อใจในความรอบรู้ รอบคอบ ที่สามารถจัดงานพิธีของเขาให้ได้ดี สวยงามถูกใจ และได้เห็นจากการที่ข้าพเจ้าได้ไปจัดให้กับญาติ เพื่อน มาแล้ว และเห็นว่าคู่ของข้าพเจ้ามีความพร้อมทุกด้าน ทั้งคนจัดอุปกรณ์ที่ใช้ในพิธี การแต่งกายของคนอุ้มขันหมาก และที่สำคัญคู่ของข้าพเจ้าเป็นคู่สามีภรรยาที่มีความประพฤติ ปฏิบัติดี สมควรที่จะเชิญมาเป็นผู้ทำพิธีมงคลให้กับลูกหลานของเขา เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป
ข้อพึงระวัง ->