ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การทำนา

โดย : นายสุพจน์ เมทา วันที่ : 2017-03-19-15:59:17

ที่อยู่ : 114/2 หมู่ที่ 2 ตำบลนาบ่อคำ

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

          อาชีพทำนา ปลูกข้าว เป็นอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ตั้งแต่สมัย ปู่ ยา ตา ยาย และสืบทอดมาถึงปัจจุบัน          ปัจจุบันมีการนำปุ๋ยเคมีมาใช้ในการเกษตรเป็นอย่างมาก  ซึ่งทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำลายดินให้เสื่อมโทรม ทำให้ได้พืชผลทางการเกษตรที่น้อยลงและด้อยคุณภาพ จึงมีการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพมากขึ้น  ซึ่งการทำนาปลูกข้าวที่ทำอยู่ทุกวันนี้ จะใช้น้ำหมักชีวภาพ  สามารถนำมาใช้เป็นปุ๋ย และป้องกันกำจัดศัตรูพืชแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้  ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรมีการหันมาใช้น้ำสกัดชีวภาพมากขึ้น ทำให้ข้าวที่ปลูกมีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิมที่ใช้ปุ๋ยเคมี

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

                                โดยการทำนา การปลูกข้าวทั่วๆไป มี 3 วิธีหลักใหญ่ๆ คือ การทำนาหว่าน การทำนาหยอด และ การทำนาดำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ของแต่ละที เช่นพื้นที่สูง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่น้ำลึก และสภาพน้ำ
เช่น เขตช่วงหน้าน้ำฝน เขตอยู่ติดกับชลประทาน สภาพอากาศและสังคม เช่น มีแรงงานในการทำนาหรือไม่มีแรงงาน สภาพเศรษฐกิจ โดยทั่วไป เช่น มีเงินทุนที่ใช้ลงทุนมากหรือน้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้ คือ

                   1. การทำนาแบบชนิดหว่าน โดยส่วนมากนิยม เนื่องจากขาดแคลนแรงงานสภาพน้ำจำกัด ยากแก่การปักดำข้าว หรือพื้นที่อยู่ในเขตน้ำฝนไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำได้ เป็นการปลูกข้าวโดยใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหว่านลงไปในนาที่เตรียมดินไว้แล้ว มี วิธีดังนี้คือ

    - หว่านข้าวแห้งหรือหว่านสำรวย

    - หว่านข้าวตม เมื่อข้าวงอกแล้วหว่านเพาะเลย

                   2. การทำนาแบบชนิดหยอด นิยมในเขตพื้นที่สูง เขตพื้นที่ไร่ หรือ ในสภาพนาที่ฝนไม่ค่อยตกต้องตามฤดูกาล โดยใช้เมล็ดข้าวแห้งที่ไม่ได้มีการเพาะให้งอก หยอดลงไปในหลุมที่เกษตรกรได้เตรียมไว้
โดยใช้จอบ ใช้เสียม หรือ ใช้ไม้กระทุ้ง ใช้เครื่องหยอด หรือ อีกวิธี โดยการโรยเป็นแถว ในร่องที่ทำเตรียมไว้แล้วกลบดินฝังเมล็ดข้าว เมื่อฝนตกลงมาเมล็ดข้าวที่หยอดจะงอก ในสภาพไร่หรือที่สูง อาจทำเป็นหลุมลึก 4-5 เซนติเมตร หยอดเมล็ดข้าวหลุมละ 5-6 เมล็ด ส่วนในที่ราบสูง เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือสามารถทำร่องห่างกัน 25-30 เซนติเมตร นาหยอดจะใช้เมล็ดพันธุ์ต่อไร่ประมาณ 8-10 กก.

                   3. การทำนาดำ เป็นวิธีการปลูกข้าว โดยแบ่งการปลูกเป็น

     - ขั้นตอนการตกกล้า

     - ขั้นตอนการปักดำ

ข้อพึงระวัง ->

                   พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

                   1. พันธุ์ข้าวชนิดไม่ไวแสง เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้ทั้งนาปีและนาปรัง โดยมีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 4 เดือน ส่วนมากให้ผลผลิตต่อไร่ ประมาณ 100 ถัง เนื่องจากข้าวชนิดนี้มีการตอบสนองต่อปุ๋ยดี ตัวอย่าง เช่น ข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี, ข้าวพันธุ์ชัยนาท, ข้าวพันธุ์ กข. 23, ข้าวพันธุ์เจ้าหอมคลองหลวง, และข้าวพันธุ์เจ้าหอมสุพรรณบุรี ช่วงเวลาปลูกทำได้ตลอดทั้งปีขึ้นอยู่กับสภาพน้ำ แนะนำให้เขตชลประทานด้วยวิธีทำนาโดยการปักดำ หรือการหว่านข้าวตม อย่างไรก็ดี ขอไม่แนะนำให้ปลูกข้าวติดต่อกันตลอดทั้งปีเป็นเวลานานเกษตรกรควรปลูกคั่นด้วยพืชหมุนเวียนบ้างในบางฤดูกาล ซึ่งจะช่วยให้ตัดวงจรศัตรูพืชและรักษาสภาพพื้นดินที่ใช้ในการเพาะปลูกข้าว ให้คงความสมบูรณ์อยู่ตลอด

                   2. พันธุ์ข้าวชนิดไวแสง โดยเกษตรกรปลูกได้เฉพาะนาปี มีวันเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ค่อนข้างแน่นอน ไม่ว่าเกษตรกรจะเพาะปลูกเมื่อใด ส่วนมากจะให้ผลผลิตที่ไม่สูงมากนัก เพราะการปลูกข้าวประเภทนี้ตอบสนองต่อปุ๋ยต่ำ ตัวอย่าง เช่น ข้าวพันธุ์หอมมะลิ, ข้าวพันธุ์ กข.15, ข้าวพันธุ์ขาวตาแห้ง 17, ข้าวพันธุ์เหลืองประทิว 123 , และ ข้าวพันธุ์ปิ่นแก้ว 56 ช่วงเวลาในเพาะปลูกที่เหมาะสมต่อเกษตรกรประมาณเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม โดยเกษตรกรจะนับวันเก็บเกี่ยวย้อนขึ้นมา โดยให้ข้าวมีอายุ 3 ถึง 4 เดือน *โดยถ้าใช้การวิธีหว่านอายุข้าวจะสั้นลง โดยทั้งนี้ให้เกษตรกรพิจารณาประกอบกับสภาพน้ำ ในเขตหน้าน้ำฝน ซึ่งอาจใช้วิธีหว่านข้าวแห้ง หรือปักดำ

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดกำแพงเพชร
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา