การปลูกพริกสด
โดย : นางจำรูญ สุขสม วันที่ : 2017-03-19-14:40:36ที่อยู่ : 51/2 หมู่ที่ 14 ตำบลวังทอง
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
พริก เป็นผักสวนครัวที่มีรสชาติเผ็ดร้อน และถือว่าเป็นวัตถุดิบหลักที่ช่วยชูรสชาติอาหารตำรับไทยๆ ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมา รู้หรือไม่ว่าภายใต้รสชาติอันเผ็ดร้อนจนต้องเป่าปากนั้นกลับแฝงไปด้วยประโยชน์เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้เจริญอาหาร ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน แถมยังมีฤทธิ์ต้านมะเร็งอีกด้วย
วัตถุประสงค์ ->
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
อุปกรณ์ ->
วัสดุ/อุปกรณ์
1. เม็ดพริก (พริกขี้หนู)
2. ถาดหลุมเล็กเพาะต้นกล้า
3. ดินร่วนปนทราย 4. ปุ๋ยสูตรโพแทสเซียมสูงกว่าไนโตรเจน
5. อุปกรณ์ปลูกต้นไม้ 6. กะละมังหรือถาดพลาสติก
7. น้ำอุ่น
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การปลูกพริก อาจเลือกปฏิบัติได้ 3 วิธี ตามความเหมาะสม คือ
1. โดยวิธีการใช้เมล็ดพริกหยอดเมล็ดโดยตรงในหลุม หลุมละ 3-5 เมล็ด เมล็ดพริกหวานเปอร์เซ็นต์ความงอก 80% ใช้เมล็ด 60-90 กรัม/ไร่ นิยมปฏิบัติในแปลงปลูกขนาดใหญ่ และไม่มีแรงงานเพียงพอในการย้ายต้นกล้า จุดอ่อนของการปลูกโดยวิธีนี้คือ ต้นพริกอ่อนแอ อาจจะถูกมดและแมลงกัดกิน
ใบ ทำให้สิ้นเปลืองเมล็ดพันธุ์ และเสียเวลาในการปลูกซ่อม
2. เพาะเมล็ดพริกให้งอกแล้วนำไปปลูกในหลุม กลบด้วยดินบาง ๆ วิธีเพาะคือ นำเมล็ดพันธุ์แช่น้ำ แล้วเอาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ห่อ ทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน เมล็ดจะงอกแล้วนำไปปลูก
3. เพาะเมล็ดในแปลงเพาะก่อน แปลงเพาะกล้าควรใส่ปุ๋ย 15-15-15 ปริมาณ 100 กรัมต่อตารางเมตร คลุกดินลึกประมาณ 5-8 นิ้ว ควรใช้ฟูราดานในการเพาะด้วยเมื่อหว่านเมล็ดแล้วประมาณ 10 วัน เมล็ดเริ่มงอก ถ้ามีต้นหนาแน่น ให้ถอนแยกหลังจากที่ใบจริงคลี่เต็มที่แล้ว 2-3 วัน เมื่อกล้าอายุได้ 18 วัน รดด้วยปุ๋ยแอมโมเนียซัลเฟตละลายน้ำ อัตราส่วน 1 กรัมต่อน้ำ 200 ซีซี. แล้วรดน้ำตามทันที การเพาะโดยวิธีเพาะโดยเมล็ดธรรมดาที่ยังไม่งอกวิธีนี้ควรคลุกยาป้องกันกำจัดเชื้อราที่อาจติดมากับเมล็ดก่อนนำเมล็ดไปเพาะได้แก่ ออไธไซด์ และในแปลงเพาะควรจะรดด้วยไดโฟลาแทน 80 หรือไดเทน เอ็ม 45 เพื่อป้องกันโรคเน่า
ข้อพึงระวัง ->
ควรเลือกผลจากต้นที่แข็งแรงและดกลักษณะผลโตได้ขนาด รูปร่างดี ตรง ยาวไม่หงิกงอ ผิดรูปทรง มีลักษณะตรงตามพันธุ์ และไม่เป็นโรค ควรเลือกผลสำหรับเก็บไว้ทำพันธุ์ จากการเก็บรุ่นที่ 3 ทั้งนี้เพราะมีจำนวนเมล็ดมาก และขนาดของเมล็ดใหญ่สมบูรณ์ เก็บรักษาผลที่เหลือได้ไว้คาต้นจนสุกเต็มที่ จากนั้นนำมาเก็บบ่อไว้ในภาชนะ เช่น กระบุง ประมาณ 2 คืน จนเนื้อนุ่มแล้ว ใช้มีดกรีดให้ผลแตก เคาะเมล็ดออกล้างน้ำสะอาด แล้วนำไปเกลี่ยบนตะแกรงหรือกระด้ง ตากแดดให้แห้งสนิทใส่ถุงพลาสติกหรือขวดสะอาด ปิดผาให้แน่น เก็บไว้ในที่มีอากาศแห้ง และเย็นอย่าไว้ใกล้เตาไฟ หรืออยู่ในที่แดดส่องอยู่