ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

คนในชุมชนได้มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น น้ำตาล
ในเลือดสูงกว่าปกติ และมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน จึงได้เข้ารับการรักษาตัวจากโรงพยาบาลใกล้บ้านอยู่เสมอ แต่พอเวลาต่อมาจึงอยากช่วยเหลือตัวเองและรักษาตังเองได้โดยไม่ต้องพึ่งหมอ จึงได้หันมาใช้วิธีแผนโบราณซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนในการรับประทานสมุนไพรเพื่อรักษาโรค และรักษาสุขภาพ พอลองใช้สมุนไพรแล้วรู้สึกได้ผลดี ปรากฏว่าสามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ทุกคน

สมุนไพรที่คนในชุมชนนิยมรับประทาน คือ ใบย่านาง เพราะมีประโยชน์ เป็นพืชที่มีฤทธิ์เย็น และมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง นอกจากนี้ถูกจัดเอาไว้ในตำราสมุนไพรว่าเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ของใบย่านางในการรักษาโรคมีดังนี้

          -ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง

          -ช่วยป้องกันและบำบัดการเกิดโรคหัวใจ

          -ช่วยป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งได้

          - สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็ง หากดื่มน้ำใบย่านางเป็นประจำ จะทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งจะฝ่อและเล็กลง

          -ช่วยป้องกันและรักษาโรคภูมิแพ้ ไอจาม มีน้ำมูกและเสมหะ

          -ช่วยรักษาอาการร้อนแต่ไม่มีเหงื่อ

          -ช่วยรักษาอาการของโรคเบาหวาน โดยไปลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ลดลง

          -มีส่วนช่วยช่วยอาการปวดตึง ปวดตามกล้ามเนื้อ ปวดชาบริเวณต่าง ๆ

          -มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรีย

          -ช่วยรักษาอาการเกร็ง ชัก หรือเป็นตะคริวบ่อย ๆ

          -ช่วยแก้อาการเจ็บเหมือนมีไฟช็อตหรือมีเข็มแทงหรือมีอาการร้อนเหมือนไฟ

          -ช่วยแก้อาการเหงือกอักเสบอย่างรุนแรงและเรื้อรัง

          -ช่วยรักษาโรคตับอักเสบ

          -ช่วยรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ

          -ช่วยป้องกันการเกิดโรคริดสีดวงทวาร

          -ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกาต์

ต่อมาสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอได้ให้การสนับสนุนโดยจัดให้มีวิทยากรด้านสมุนไพรมาให้ความรู้แก่คนในชุมชน และได้สอนวิธีการทำน้ำสมุนไพรไว้ดื่มเองที่บ้าน ซึ่งเป็นน้ำสมุนไพรที่สกัดจากใบย่านาง ใบเตย หญ้าม้า และเบญจรงค์ หรือ อ่อมแซ่บ ซึ่งได้น้ำสมุนไพรที่ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ มีกลิ่นหอม ดื่มได้ง่าย เริ่มต้นทำได้แจกจ่ายให้คนใกล้ตัวและคนในชุมชนได้ทดลองนำไปดื่ม ทุกคนที่ได้ทดลองดื่มแล้วต่างบอกว่าจากสุขภาพที่เคยมีปัญหาบางอย่างก็ดีขึ้นจากเดิม จึงเกิดความคิดว่าถ้าเราจะทำจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้แก่ครอบครัวก็น่าจะได้  จึงทำจำหน่าย ในระยะต่อมาปรากฏว่าผลตอบรับดีพอสมควร มีคนสนใจเกี่ยวกับน้ำสมุนไพรมากขึ้น

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อให้ทุกคนหันกลับมาใช้สมุนไพรที่เรามีอยู่ให้เกิดประโยชน์ และลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง และสามารถทำดื่มเองได้ หรือสามารถทำเป็นอาชีพได้ และอีกอย่างคือหันกลับมาเห็นคุณค่าในตัวสมุนไพรรอบข้างของเรามากขึ้น จากที่เคยปั่นกินเองแบบน้ำสมุนไพรเขียวๆ ก็อาจจะกินยากหน่อยสำหรับหลายๆคน แต่ถ้านำสมุนไพรมาสกัดแล้วได้น้ำสมุนไพร "น้ำใสใส" ก็ดูน่าทานมากขึ้นและทานง่ายกว่าเดิม และยืดอายุการเก็บรักษาได้นานกว่าน้ำสมุนไพรที่ปั่นเป็นสีเขียว

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

·       ใบหญ้านาง

·       ใบเตย

·       หญ้าม้า

·       เบญจรงค์ หรือ อ่อมแซ่บ 

 

อุปกรณ์ ->

หม้อขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ 

หม้อลังถึง

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. ล้างสมุนไพรที่ต้องการสกัด คือ 1) ใบย่านาง 2) หญ้าม้า 3) เบญจรงค์ หรือ อ่อมแซบ 4) ใบเตย

นำมาล้างด้วยน้ำสะอาดประมาณ 3 น้ำ

2. จากนั้นนำสมุนไพรใส่ในหม้อใบแรกแล้วเติมน้ำให้ท่วมสมุนไพรแล้วตั้งไฟ (ใช้ไฟปานกลาง)

3. นำภาชนะใบเล็กใส่ลงในหม้อใบที่ 2 เพื่อรองรับหยดน้ำสมุนไพรที่ต้องการ แล้วนำหม้อใบที่ 2 วางไว้บนหม้อใบแรก

4. นำชามใบใหญ่ใส่น้ำสะอาดจนเต็มชาม แล้วนำไปปิดบนหม้อใบที่ 2 แล้วก็เข้าสู่กระบวนการสกัดสมุนไพรแบบวิธีดั้งเดิม

เทคนิค

              พยายามอย่าให้ภาชนะที่เราเตรียมไว้ใส่น้ำสมุนไพรที่เราสกัดเรียบร้อยแล้วเปียกหรือมีน้ำเปียกอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดตะกอนภายหลังบรรจุใส่ขวดแล้ว และต้องปล่อยให้สมุนไพรที่เราสกัดได้พักไว้ 1 คืน
เพื่อลดการเกิดตะกอนได้เหมือนกัน

ข้อพึงระวัง ->

ห้ามดื่มโดยไม่ผสมน้ำเด็ดขาด