การมัดหมี่
โดย : นางสำรี ปวงประชัง วันที่ : 2017-03-14-16:21:27ที่อยู่ : 93 ม.2 ต.ช่องลม
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งมาจากภาคอีสาน ในอดีตจะมีการทอผ้าใช้เองในครัวเรือน มีการเลี้ยงไหม เอาเส้นไหมมาทอเป็นเสื้อผ้าเพื่อสวมใส่ ปัจจุบันมีการดัดแปลงนำเส้นไหมประดิษฐ์มาใช้ทดแทน และมีการมัดหมี่เพื่อให้ผ้ามีลวดลายที่สวยงาม
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อลดรายจ่ายสร้างรายได้ในครัวเรือน
2. เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น
3. เพื่อถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. ไหมประดิษฐ์
อุปกรณ์ ->
1. โฮงค่นหมี่
2. โฮงมัดหมี่
3. สีย้อมผ้า
4. เชือกฟาง
5. กรรไกรตัดเล็บ
กระบวนการ/ขั้นตอน->
วิธีการค้นหมี่
1. เอาไหมที่เตรียมมาแล้วมัดหลักหมี่ด้านล่างก่อน แล้วพันรอบหลักหมี่ไปเรื่อยๆ เรียกว่า การก่อหมี่
2. การค้นหมี่จะต้องค้นจากล่างขึ้นบน หรือบนลงล่างจนกว่าจะครบจำนวนรอบที่ต้องการ ภาษาท้องถิ่นเรียกแต่ละจำนวนว่าลูกหรือลำ ถ้าก่อหมี่ผูก ฝ้ายด้านขวา ก็ต้องวนซ้ายมาขวาทุกครั้ง
3. ควรผูกฝ้ายไว้ทุกลูกด้วยสายแนม เพื่อไม่ให้หมี่พันกัน หรือหลุดออกจากกันวิธีการมัดหมี่
1. มัดกลุ่มไหมแต่ละลูกหมี่ด้วยเชือกฟาง จนครบหลักหมี่ ทำเป็นเชิงผ้า
2. การเริ่มต้นลายมัดหมี่ อาจมัดจากด้านบนไล่เรียงลงข้างล่าง หรือมัดข้างล่างก่อนจึงไล่เรียงขึ้นข้างบน บางคนอาจเริ่มมัดจากตรงกลางก่อน จึงขยายออกไปเต็มหลักหมี่
3. เริ่มมัดปลายเชือกด้านหนึ่งกับลูกหมี่ก่อน จึงพันอีกปลายหนึ่งซ้อนทับกันให้แน่นเพื่อไม่ให้สีย้อมซึมเข้าข้อหมี่ เมื่อพันทับกันไปจนได้ความยาวตามลายหมี่แล้ว มัดปลายเชือกกับลูกหมี่ให้แน่นเช่นกัน โดยเหลือปลายเชือกไว้ เมื่อเวลาแก้ปอมัดจะทำได้ง่าย
4. เอาเชือกเส้นหนึ่งสอดเข้าไปในช่องหลักหมี่ข้างใดข้างหนึ่ง ผูกกลุ่มฝ้ายไว้เป็นวงไม่ให้หมี่ที่มัดลวดลายแล้วหลุดออกจากกัน และใช้เป็นหูหิ้วสำหรับจับเวลาย้อม ถอดไหมมัดหมี่ออกจากหลักหมี่หลังจากนั้น เราก็จะนำไปย้อมสี เมื่อย้อมสีเสร็จก็จะนำมาแก้ปอมัดหมี่
ข้อพึงระวัง ->
1. ใช้กรรไกรตัดเล็บแทนในการตัดเชือกฟาง เพราะป้องกันการตัดโดนไหม
2. การค่นหมี่ต้องนับให้เท่ากัน ต้องมีสมาธิจดจ่อกับงาน
3. ใช้ความปราณีต
4. มัดให้แน่น ป้องกันการหลุดเวลาย้อมสี