ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

นางดรุณี  ยาแก้ว มีอาชีพทำนา เริ่มเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นอาชีพเสริม เมื่อปี 2546 แต่ไม่ประสบผลสำเร็จจึงเลิกเลี้ยงไป ต่อมาประมาณปี 2556 เศรษฐกิจเริ่มไม่ดี ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ประกอบกับได้รับความรู้เรื่องการเลี้ยงจิ้งหรีด จากทางอินเตอร์เน็ต จึงกลับมาลองเลี้ยงจิ้งหรีดอีกครั้ง จนประสบผลสำเร็จ

วัตถุประสงค์ ->

     เพื่อเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

-

อุปกรณ์ ->

                1. แผ่นสมาร์ทบอร์ด จำนวน 5 แผ่น (ทำกล่องได้ 2 กล่อง)

2. โครงไม้ ขนาด กว้าง 120 ซม. X ยาว 240 ซม.

3. แผงไข่กระดาษ จำนวน 130 แผง ต่อ 1 กล่อง

4. ผ้ารี่ ขนาด กว้าง 150 ซม. X ยาว 300 ซม. ต่อ 1 กล่อง (ใช้ปิดกันจิ้งหรีดออกตอนกลางคืน)

5. ถาดวางอาหาร

6. เทปใส ติดขอบกล่อง กันจิ้งหรีดออก

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. เตรียมพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ โดยใช้พ่อพันธุ์ จำนวน 100 ตัว ต่อแม่พันธุ์ จำนวน 300 ตัว ต่อการเลี้ยง 1 กล่อง

2. ให้หัวอาหารจิ้งหรีด 2 มื้อ เช้า – เย็น พร้อมใบผัก เช่น ใบมันสำปะหลัง ใบฝักทอง ใบผักบุ้ง

3. ต้นกล้วย ลูกฝัก ลูกมะละกอ (ใบผักให้วันต่อวัน) และพรมน้ำพอชื้นๆ บนใบผัก วันละ 3 ครั้ง เช้า-กลางวัน-เย็น

4. ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 35 วัน

5. เตรียมดินผสมขุยมะพร้าวใส่ถาด วางบนแผงไข่ เพื่อให้จิ้งหรีดวางไข่ ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง

6. เมื่อวางไข่แล้ว ให้แยกถาดออกมานอกกล่อง นำมาเลี้ยงแยกอีกกล่อง

7. ช่วงอนุบาลไข่ ใช้เวลา 7-8 วัน โดยใช้น้ำฉีดพรมถาดไข่พอชื้นๆ ไม่ให้เปียก จำนวน 2 วันต่อครั้ง

8. เมื่อไข่ฟักเป็นตัวอ่อน ให้อาหารช่วงตัวเล็ก ประมาณ 2 กำมื้อ ต่อกล่อง อาหารอยู่ได้ประมาณ 2 วันจึงหมด เตรียมถาดไข่ และใบผัก วางบนแผงไข่ เพื่อเป็นที่อยู่และกินน้ำบนใบผัก พรมน้ำบนใบผักวันละ 1 ครั้ง

9. เมื่อจิ้งหรีด อายุได้ 7 วัน ให้อาหารจิ้งหรีดได้ประมาณวันละ 2 มื้อ เช้า – เย็น และให้ใบผัก

10. เมื่ออายุได้ หลัง 7 วัน การให้อาหารเหมือนการเลี้ยงพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์

11. เมื่อจิ้งหรีดอายุได้ 35 วัน จึงจับขาย

ข้อพึงระวัง ->

1. ก่อนจับจิ้งหรีดขาย ควรงดให้อาหาร 1 วัน แต่ควรให้อาหารใบผักตามปกติ

2. ควรติดเทปใสรอบกล่อง กันจิ้งหรีดออก

3. ถ้าอากาศร้อนมาก ๆ จะตาย ต้องหมั่นพรมน้ำบ่อย ๆ และเปิดพัดลมช่วยระบายความร้อน