ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การปลูกข้าวหอมมะลิ

โดย : นายสมศักดิ ทุมพร วันที่ : 2017-03-29-00:28:49

ที่อยู่ : 404/1 หมู่ที่ 1 ซอย - ถนน - ตำบลวังบัว

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

                   ข้าวหอมมะลิเป็นพันธ์ข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุด เป็นที่ต้องการของตลาด เนื่องจากมีกลิ่นหอม เวลาหุงขึ้นหม้อ น่ารับประทาน อีกทั้งยังมีรสชาติดี เพราะฉะนั้นการปลูกข้าวหอมมะลิจึงเป็นที่ต้องการของตลาด

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

กระบวนการ/ขั้นตอน->

                   โดยทั่วไป ขั้นตอนการปลูกข้าวหอมมะลิ จะเริ่มจากการคัดเลือกพื้นที่ปลูกข้าว เพราะสภาพดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับปลูกข้าวหอมมะลิ จะต้องมีค่า pH ประมาณ 5.5-6.5 ภายใน 3 ปี เกษตรกรจะต้องคอยวิเคราะห์ดินอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อปรับการใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับสภาพดินนอกจากนี้ เกษตรกรต้องเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี มีความบริสุทธิ์ตรงตามสายพันธุ์ ที่มีอัตราความงอกไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ โดยนาหว่านข้าวแห้ง ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ ประมาณ 15-20 กิโลกรัม/ไร่ ส่วนนาปักดำมือ ต้องใช้เมล็ดพันธุ์  6-8 กิโลกรัม/ไร่

การเตรียมดินสำหรับปลูกข้าวหอมมะลิ 105 สำหรับนาหว่านข้าวแห้ง เกษตรกรจะไถพรวน ผาล 3-6

ให้ลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร เพื่อกลบตอซัง พลิกดิน และกำจัดวัชพืช หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ ประมาณ 2 สัปดาห์ และหว่านเมล็ดข้าวในอัตรา 15-20 กิโลกรัม/ไร่ โดยหว่านให้สม่ำเสมอและกระจายทั่วทั้งแปลง จากนั้นจะใช้โรตารี่ ปั่นตีดิน ในสภาพดินแห้ง ลึกประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อกลบเมล็ดข้าวที่หว่านไว้ให้แน่นพอเหมาะ และกระจายตัวสม่ำเสมอ หรือใช้รถไถเดินตาม ผาล 2 ไถกลบเมล็ดข้าวที่หว่านไว้ แล้วจึงใช้คราดเกลี่ยดินเพื่อให้ได้ระดับเดียวกัน เหมาะสมต่อการงอกของข้าวด้าน นาปักดำมือ การเตรียมแปลงตกกล้า ชาวนาจะไถพรวน ผาล 3-6 ทิ้งไว้ 7-10 วัน หลังจากนั้น ขังน้ำให้ได้ ประมาณ 3 เซนติเมตร ไถพรวน ผาล 2 แล้วคราดดินให้ละเอียด เพาะเมล็ดให้งอกตุ่มตายาว 1-2 มิลลิเมตร หว่านเมล็ดพันธุ์ที่งอกแล้ว ค่อยๆ เพิ่มระดับน้ำจนต้นกล้าข้าวอายุ 25-30 วัน จึงนำไปปักดำได้ ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ในอัตรา 1.5 กิโลกรัม/ไร่ ก่อนถอนกล้า 5-7 วัน เพื่อให้ง่ายต่อการถอน

 

 

 

ส่วนการเตรียมแปลงเพื่อการปักดำมือ นายสมศักดิ์จะใช้วิธีการไถพรวน ผาล 3-6 ทิ้งไว้ 7-10 วัน

หลังจากนั้น ขังน้ำให้ได้ ประมาณ 3 เซนติเมตร ไถพรวน ผาล 3-6 อีกครั้ง แล้วคราดดินให้ละเอียด ขังน้ำให้ได้ ประมาณ 3-5 เซนติเมตร และรอปักดำ สำหรับพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 จะใช้วิธีปักดำที่ระยะ 25x25 เซนติเมตร ชาวนาจะถอนกล้าโดยไม่ต้องตัดใบและไม่ฟาดมัดกล้า เพราะจะทำให้ต้นกล้าช้ำ นำต้นกล้าที่เตรียมไว้ไปปักดำ 3-5 ต้น/กอ ลึก 3-5 เซนติเมตร ระดับน้ำขณะปักดำ ต้องไม่เกิน 10 เซนติเมตร ส่วนการใช้ปุ๋ย เกษตรกรบอกว่า จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์รองพื้นก่อน ให้ใส่ก่อนไถพรวน ผาล 3-6 โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ในอัตรา 40-50 กิโลกรัม/ไร่ การใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 สำหรับนาหว่านข้าวแห้ง ต้องใส่ในช่วงที่ข้าวเริ่มแตกกอ (ต้นเดือนสิงหาคม) โดยใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ในอัตรา 20-25 กิโลกรัม/ไร่ สำหรับนาดินทราย หรือสูตร 16-20-0 (นาดินเหนียว) ส่วนนาปักดำมือ ให้ใส่หลังปักดำ 10-12 วัน หรือในช่วงที่ข้าวเริ่มแตกกอ โดยใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ในอัตรา 20-25 กิโลกรัม/ไร่ สำหรับนาดินทราย หรือสูตร 16-20-0 (นาดินเหนียว)ขณะที่การใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ชาวนาจะใส่ปุ๋ยก่อนข้าวออกดอก ประมาณ 30 วัน (ประมาณวันที่ 20 กันยายน ของทุกปี) โดยใช้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 ในอัตรา 5-10 กิโลกรัม/ไร่ โดยทุกครั้งที่ใส่ปุ๋ย จะต้องมีน้ำขังในแปลงนา ประมาณ 3-8 เซนติเมตร เพื่อให้ข้าวสามารถใช้ปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาคุณภาพข้าวพันธุ์ดี คุณสมศักดิ์และกลุ่มเพื่อนชาวนาจะใส่ใจดูแลการตัดข้าวปน โดยสำรวจต้นข้าวใน 2 ระยะ คือ ระยะแตกกอ โดยตรวจดูลักษณะการแตกกอ การชูใบ ขนาดความสูงของใบ หากพบต้นผิดปกติให้ถอนทิ้งทันที ส่วนระยะออกดอก ก็ต้องคอยตรวจดูความสูงของต้นข้าวในระยะออกดอก การออกดอกก่อนหรือหลัง ลักษณะของดอก สี ขนาดของเกสรตัวผู้ ถ้าพบต้นผิดปกติ ให้ตัดทิ้งทันที

ส่วนขั้นตอนการเก็บเกี่ยวข้าว คุณสมศักดิ์บอกว่า ต้องทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยบันทึกวันออก

ดอก(เมื่อข้าวออกดอก ร้อยละ 80 ของแปลง) การกำหนดวันเก็บเกี่ยว จะนับจากวันออกดอกไปไม่น้อยกว่า 25 วัน และไม่เกิน 35 วัน เพราะการเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะทำให้ได้น้ำหนักเมล็ดสูง เปอร์เซ็นต์ข้าวเต็มเมล็ดดี และมีคุณภาพการสีดี ก่อนเก็บเกี่ยว ประมาณ 10 วัน ชาวนาในชุมชนแห่งนี้จะระบายน้ำออกจากแปลงนา เพื่อให้ข้าวสุกแก่พร้อมกัน ทุกวันนี้ชาวนาส่วนใหญ่นิยมใช้รถเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อประหยัดเวลาและต้นทุนแรงงาน ข้อดีอีกประการหนึ่งก็คือ ทำให้ข้าวร่วงหล่นน้อย ภายหลังการเก็บเกี่ยวที่นี่จะไม่นิยมเผาฟางหลังการทำนา แต่จะใช้วิธีการไถกลบตอซัง พอฝนตกลงมา ตอซังที่ไถกลบก็จะย่อยสลายเป็นปุ๋ยบำรุงดินต่อไป 

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดกำแพงเพชร
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา