ความรู้สัมมาชีพชุมชน

image1

จักสานไม้ไผ่

โดย : นางศิริวรรณ จันแดง วันที่ : 2017-03-23-00:21:09

ที่อยู่ : 5 ม.5 ต.หนองหัววัว

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

            วิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีต เมื่อเสร็จจากฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว ชาวบ้านมักมีเวลาว่างจากการทำเกษตรกรรม จึงใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการประกอบอาชีพต่างๆ เพื่อเสริมรายได้ การจักสานไม้ไผ่     ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านหมู่ที่ 5 บ้านน้ำโก้ ได้ทำร่วมกันทั้งทำไว้ใช้เองและทำไว้ขายในอดีตจะมีรถเข้ามารับซื้อถึงในหมู่บ้านเครื่องจักสาน เช่น เสื่อลำแพน,กระจาด,กระบุง,ตะกร้า,กระด้ง และตะข้อง เป็นต้น สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และได้เรียนรู้การจักสารจากพ่อแม่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันโดยสืบทอดมาจากรุ่น พ่อ แม่ เมื่อว่างจากการทำการเกษตรกรรม

            เนื่องจากในพื้นที่ตำบลมีแหล่งป่าไผ่ที่ขึ้นตามธรรมชาติทำให้ชาวบ้านไปตัดไผ่มาสักสาน และยังมีการจักตอกมัดข้าวเพื่อขายเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

วัตถุประสงค์ ->

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

อุปกรณ์ ->

1. มีด  2. มีดตอก 3.ไม้ไผ่  4. คีมไม้  5. เรียด

กระบวนการ/ขั้นตอน->

             1. การเตรียมไม้ไผ่ เลือกลำต้นที่มีความตรง ลำปล้องยาว ผิวเรียบเป็นมัน ไม่แคะแกรน ไม่บิดงอ  ไม่เป็นมอดแมง  ผิวไม่ถลอก และมีอายุระหว่าง ๑ - ๒ ปี จะใช้สานได้ดี เพราะไม้ในช่วงอายุดังกล่าวจะผ่า จัก เหลา และสานได้ง่าย ดัดโค้งได้ไม่แตกหัก หากไม้แก่เกินไปจะทำให้ยุ่งยาก เหลายาก เปราะแข็งเกินไป ลำบากในการนำมาสาน หากไม้อ่อนไป จะเสาะ หักง่ายและบวม สานได้ไม่ค่อยแน่น ไม่ควรใช้ไม้ไผ่ที่มีสีต่างกัน หลังจากตัดออกมาจากกอ นำมาแช่น้ำตลอดทั้งลำ เพื่อให้ไม้ไผ่มีความสดและป้องกันมด ปลวก มอด เจาะไช

2. เมื่อตัดไม้มาจากกอแล้วก็จะมาแบ่งไม้ทั้งลำออกเป็น ๔ ส่วน คือ

3. ส่วนโคนต้นจะเลือกเอาไว้ทำไม้ขัดก้น เพราะส่วนนี้ไม้จะแข็ง

4. ส่วนต่อจากโคน เอาไว้ทำตอกตั้ง ปกติแล้วจะตัดเป็นท่อนๆยาวท่อนละ ๒ ปล้อง

5. ส่วนที่ ๓ จะตัดไว้ยาว เพื่อทำตอกเวียนหรือตอกสานซึ่งจะตัดแต่ละท่อนยาวประมาณ ๔ - ๖ ปล้อง

6. ส่วนปลาย เอาไว้สำหรับขอบปาก เพราะส่วนปลายยังอ่อนสามารถดัดแต่งโค้งได้ง่ายกว่าส่วนโคน

7. เมื่อจะนำมาใช้งานจึงตัดเอาตามขนาดที่ต้องการมาผ่าออกแล้วนำไป จักเป็นตอกแล้วตากแดดให้แห้ง การผ่าจะผ่าจากปลายลงมาหาโคน และผ่าทแยงให้เฉียดตาทั้ง ๒ ข้าง การผ่าและจัก จะผ่าและจักทีละท่อน ไม่นิยมผ่าทิ้งไว้ ทั้งนี้เพราะถ้าจักไม่ทันแล้วจะทำให้เหนียวจักยาก ลำบากในการจักและเหลา การผ่านิยมผ่ากลางก่อนแล้วจึงผ่าซอยออกเป็นซี่ๆ ตามขนาดความกว้างของตอกที่จะสาน

            8. การจักตอก การจักตอกนั้นเมื่อผ่าออกมาเป็นซี่ ๆ แล้วก็จะทำการผ่าไส้ในออก (เยื่อไม้) ส่วนผิวนอกจะขูดแต่งให้เรียบร้อย ตอกมี ๒ ชนิด คือ ตอกปื้น (จักตามผิว) และตอกตะแคง (จักขวางผิว) การสานเครื่องจักสานนิยมจักตามผิว สำหรับตอกตั้งนั้นตรงกลางที่จะสานเป็นก้นของเครื่องจักสาน ต้องเสี้ยมตอกให้เรียบก่อนแล้วจึงจักทั้งนี้เพราะส่วนก้นของเครื่องจักสานจะแคบกว่าส่วนปากตอกแต่ละเส้นจะจักให้มีความหนาประมาณ ๑ มิลลิเมตรทั้งเส้นสานและเส้นยืนส่วนตอกเส้นสานที่ใช้สำหรับสานไพรนั้นจะจักและเหลาเป็นเส้นเล็กๆ กลมๆ

            9. การเหลา เมื่อจักเรียบร้อยแล้วก็จะเหลา (จะจักและเหลาให้เสร็จเป็นท่อนๆ) การเหลานั้นปกติจะใช้ผ้าพันนิ้วมือที่รองตอกก่อน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันมิให้มีดหรือคมไม้บาดมือได้ ในการเหลาตอกสำหรับสานไพร จะเหลาทีละ ๔ - ๕ เส้น พร้อมกัน โดยการจับรวบกันเหลา ถ้าเหลาที่ละเส้นจะทำให้ช้า        

            10.การก่อก้นเมื่อเตรียมตอกเรียบร้อยแล้ว จะทำการก่อก้น จำนวนเส้นที่ใช้ก่ออาจเป็นเส้นคู่หรือคี่ เช่น ๒๖ เส้น, ๒๗ เส้นหรือ ๓๒ เส้น แล้วแต่ว่าจะสานเครื่องจักสาน ขนาดเท่าใด และการก่อก้นจะนำเอาตอกส่วนที่ติดผิวไว้ตรงกลาง ๒ - ๓ คู่ ที่เหลือจึงจะเป็นตอกส่วนใน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงและสวยงามและต้องแบ่งตอกแต่ละข้างออกเท่าๆ กัน เพื่อตอกจะได้เสมอเวลาขึ้นรูปแล้ว

            11. ใช้ไม้ขัดก้น เมื่อสานก้นเรียบร้อยแล้วก็จะหาไม้ ๒ อันมาขัดกัน โดยการขัดไขว้กัน ๒ อัน เพื่อให้แข็งแรงก่อนที่จะขึ้นรูปต่อไป

            12. การสานขึ้นรูป เมื่อขัดก้นเรียบร้อยแล้วก็จะใช้ตอกเวียนหรือตอกสานมาสานขึ้นรูป การขึ้นรูปนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญตอนหนึ่ง ต้องอาศัยความชำนาญเพราะอาจจะทำให้เครื่องจักสานที่สานบิดเบี้ยวได้ การขึ้นรูปจะทำการหักมุมตอกยืน โดยใช้ดันกับหัวเข่า และจะต้องดึงแต่ละมุมให้เท่าๆ กัน

            13.เมื่อทำการสานเป็นรูปทรงแล้วก่อนจะหมดตอกตั้ง จะใช้ตอกเส้นเล็กทำการสานไพร การสานไพร เพื่อช่วยให้เครื่องจักสานมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น

ข้อพึงระวัง ->

รูปประกอบ -> image1

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดกำแพงเพชร
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา