ช่างไม้บ้านทรงไทย
โดย : นายพนม ลับแล วันที่ : 2017-03-24-15:42:54ที่อยู่ : 315/1 หมู่ 12 ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
การก่อสร้างเรือนไทย ในสมัยก่อน มีการก่อสร้างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งนิยมก่อสร้างโดยยึดแบบแผน หรือถ่ายทอดกันต่อเนื่องมาในปัจจุบัน ถึงแม้ปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงไปตามกาลสมัยรวมทั้งนำเทคโนโลยีสมัยเข้ามาช่วย
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาแบบไทย
2. เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. ไม้ 2. ตำปู หรือไม้ลิ้ม
อุปกรณ์ ->
1. ฆ้อน 2. ขวาน 3. เลื่อยมือ 4. กบไสไม้ด้วยมือ 5. สิ่ว
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การก่อสร้างบ้านทรงไทยมีขั้นตอนแบ่งเป็นข้อได้ดังนี้
1. วางผังโดยใช้พรึงที่ประกอบแล้วเป็นวงรอบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นเครื่องกำหนดมุมฉากกว้างยาวของบ้านมาวางเป็นผัง
2. ปัก ”ฉะ นบ” โดยรอบตามจุด 4 มุมและตรงที่วางเสาแล้ววางหลุมโดยฉะมบ หรือเข็มหมุดเป็นจุดศูนย์กลางหลุมวัดผ่าศูนย์กลาง 30 ซม. (ในกรณีที่ใช้แระ แต่ถ้าใช้วัวกับกงพัดจะต้องกว้างกว่านี้)
3. ยกพรึงออก
4. ขุดหลุมกว้างประมาณ 30 ซม. หากขุดกว้างมากเกินไป เสาจะเอนมากทำให้ล้มได้ หลุมลึกประมาณ 75 ซม. ก้นหลุมวาดแระให้ได้ระดับ(เรือนไทยสมัยโบราณน้ำหนักบรรทุกไม่มาก แต่เรือนไทยโบราณมักจะทรุดเพราะทำฐานไม่พอรับน้ำหนัก)
5. ยกเสาลงหลุมตามลำดับเอก โท ฯลฯ
6. ใส่รอดเข้าที่ทุกเสา
7. ช่างไม้จะปืนขึ้นไปทุกเสาประจำเสา เสาละคนสอดไม้คาโคนหลุมที่ดิน เพื่อกันเสาเอนไปมาและไม่ให้เสาล้ม ยังไม่กลบหลุมเสา
8. ส่งเต้าขึ้นไปให้นำเต้าเข้าสอดตามรูเต้าทั้งเต้ารุมเต้าราย เมื่อสอดเต้าเข้าที่แล้วช่างไม้จะนั่งบนเต้า คนข้างล่างจะส่งขื่อขึ้นไป
9. วางขื่อสวมลงบนหัวเทียน แต่งโคนหลุมหรือผลักเสาให้ขื่อสวมหัวเทียนให้ได้
10. ที่ใดมีฝาประจันห้องยกเสาดั้งสอดใส่รูขื่อทะลุขึ้นไปให้ง่ามเสาดั้งนั่งบนหลังรอด
11. ส่งแปหัวเสาขึ้นทั้งสองข้าง ให้บ่าแปหัวเสาวางบนหัวขื่อที่เตรียมไว้วางแปหัวเสาให้เข้าที่
12. ติดตรึงโดยรอบโย้แต่งเสาติดตรึงพออยู่ไม่ให้แน่นใส่สลักตรึงสลักพออยู่จะให้พึงแน่นเมื่อใส่ฝาแล้ว
13. แต่งระดับน้าให้หลังรอด – พรึง –แปหัวเสาได้ระดับระยะนี้สำคัญมาก
14. ปูพื้นทั้งหลังวางพื้นทับบนรอดไม่ต้องตีตะปูวางทับเฉยๆ เพื่อเป็นนั่งร้านในการทำงานด้วย
15. นำแผงหน้าจั่วสองแผ่นวางให้ปลายล่างตีนจั่ว วางอยู่แน่นทับแปหัวเสาทั้งสองจั่วหัวท้าย
16. และที่ไม่มีฝาปิดประจันห้องติดตั้งดั้งลอย และใส่จันทันทั้งสองข้างโคนจันทันสวมติดกับแปหัวเสา ปลายจันทันติดยอดใบดั้งลอย
17. วางแปเข้าที่ทั้งสองข้าง ตีตะปูแปให้แน่นกับตัวจันทันและแผงหน้าจั่ว การตีแปติดกับจันทันและจั่วคงใช้ตะปูจีน
18. วางอก ไก่สวมลงไปกับเดือยใบดั้งบนเสาดั้ง เดือยแผงจั่วหัวท้ายและเดือยใบดั้งลอยวางที่บนขื่อ ตอกลิ่มเดือยใบดั้ง ส่วนเดือยแผงจั่วเป็นเดือยไม่ทะลุอกไก่ ระยะนี้จะเป็นระยะที่สำคัญที่สุด
19. ยก แผงฝาด้านยาวทั้งสองด้าน การยกฝาเข้าที่ต้องตอกเข้าถอยเข้าไปในเสาให้สุดตัว เฉพาะตัวที่จะบรรจุฝา (เพราะถ้ามีเต้าอยู่จะใส่แผงฝาไม่ได้ถนัด) เมื่อยกฝาเข้าที่ตั้งบนพรึงและอยู่ใต้แปหัวเสาได้แล้ว จึงตอกเต้ากลับออกมาเพื่อเตรียมยึดเชิงชายดังเดิม ทำเช่นนี้ทุกแผงฝา ยังไม่ต้องตอกตะปูจีนยึดฝากับเสาให้เต้ายึดอัดฝาไม้ไว้ก่อน ระยะนี้เวลาก่อสร้างจะเห็นประโยชน์ของเสาที่เอียงสอบเพราะจะรับแผงฝาไว้ได้ น้าหน้ำฝาถ่ายลงให้เสาละเต้าจะช่วยอัดฝาไม่ให้ล้มหลุด ไม่ต้องตีตะปูก็จะตั้งอยู่ได้แต่ไม่แน่น
20. ติดฝาอุดหน้ากลองหัวท้ายและฝาประจันห้อง (วิธีเช่นฝาด้านยาว)
21. ติดเชิงชายด้านยาวแน่นกับเต้า
22. ติดเชิงชายด้านสกัด ตรึงเชิงชายให้ติดกับเต้าใส่สลักไม้อัดเชิงชายแน่นกับเต้าทุกตัว
23. ติดปั้นลมแน่นกับแปทุกตัว วางกลอนเจาะ (ถ้ามุงจาก) หรือวางกลอนขอสลับกลอนแบนที่มีรูใส่เดือยแล้วตีระแนง (หากมุงกระเบื้อง)
24. โย้แต่งตีนเสาให้เข้าที่ แต่งตามจนฝาแนบสนิททุกแผ่น
25. ตีตะปูจีนยึดฝากับเสาให้แน่น ตะปูแผ่นละ 4 ตัว (สี่มุมฝา) ตรึงสลักยึดพรึงเสาติดแน่น
26. วางจันทันแฝงฝาเฉลียง เชิงชาย แป ปั้นลม กลอนของเฉลียง
27. กลบดินเชิงเสากระทุ้งให้แน่น
28. มุงหลังคา จะเป็นกระเบื้อง แฝก หรือจากสุดแต่ต้องการตามความจำเป็น
29. จัดทำกระเบื้องหลบ, แฝกหลบหรือจากตามลักษณะของเครื่องมุง
30. วางกระเบื้องครอบหลังคา
ข้อพึงระวัง ->