การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ
โดย : นางสาวประทีป ธรรมมาลา วันที่ : 2017-03-22-23:48:08ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 101 หมู่ที่ 9 บ้านท่าแล่นพัฒนา ตำบลเกาะสำโรง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ด้วยเหตุผลที่ว่า ราษฎรส่วนใหญ่ในหมู่บ้านท่ากระบือประกอบอาชีพเกษตร เพาะปลูกพืชผักสวนครัว รวมทั้งพืขสวน พืชไร่ ปลูกไว้ทั้งรับประทานเองและจำหน่าย ในช่วงฤดูฝนมักจะประสบกับปัญหาแมลงเจาะกินใบ กินราก จึงศึกษาจากเกษตรกรที่ทำอาชีพเดียวกันหาวิธีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ซึ่งหากเราใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพที่ทำมาจากเศษอาหาร ผักผลไม้ที่เหลือใช้ นำมาหมักกับน้ำตาลทรายแดง และปุ๋ยหมักสูตรอื่นๆ มาทดลองใช้กับพืชไร่ของตนเอง ปรากฏว่า แมลงศัตรูพืชที่มาเจาะใบและทำลายพืชไร่เสียหาย ค่อยๆ หายไป หลังจากนั้นก็ได้คิดค้นปุ๋ยหมักสูตรอื่นๆ เช่น ฮอร์โมนไข่ ปุ๋ยน้ำ นำมาทดลองใช้กับพืชไร่ของตนเองก่อน หากได้ผลดีจึงได้ขยายไปยังครัวเรือนอื่นๆ
วัตถุประสงค์ ->
การเพาะปลูกพืช ทั้งไม้ดอกและไม้ผล พืชไร่และพืชสวน ทุกชนิดล้วนมีการใช้สารเคมีในการป้องกันการเกิดโรคเป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความเสียหายแก่ผลผลิตพืชทำให้ผลผลิตลดลงและราคาตก จึงจำเป็นต้องมีการป้องกันการกำจัด การใช้สารเคมีเป็นวิธีหนึ่งที่เกษตรกรนำมาใช้ในการควบคุมโรคพืช ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นและมีสารพิษตกค้างเป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ จึงคิดค้นปุ๋ยหมักชีวภาพสำหรับใช้กับพืชของตนเอง เพื่อเป็นการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
- เศษพืชแห้ง
- สารเร่งซุปเปอร์ พด.1/พด.6
- น้ำสะอาด
- ปุ๋ยยูเรีย
- หน่อกล้วยสับ
- มูลสัตว์
- กากน้ำตาล
- เหล้าขาว
- น้ำส้มสายชู
- ลูกแป้งข้าวหมาก
- รำละเอียด
- ไข่ไก่
- นมเปรี้ยว
- เถาหางไหล,เถาดีปลี
- ใบยาสูบ
- เมล็ดสะเดาแห้ง
อุปกรณ์ ->
- ถังพลาสติก ขนาด 200 ลิตรมีฝาปิด
- ผ้าคลุมปุ๋ยหมัก
กระบวนการ/ขั้นตอน->
- ผสมปุ๋ยคอก แกลบดำ และวัสดุทุกอย่างให้เข้ากัน
- นำไปกองบนพื้นซีเมนต์ แล้วใช้ผ้าคลุมหรือหากทำปริมาณน้อย ให้บรรจุใส่ถังหรือถุงกระสอบ
- ทุกๆ 1 สัปดาห์ มากลับไปกลับมาให้เข้ากันจนทั่ว- หมักทิ้งไว้ 30 วัน ก่อนนำใส่พืชไร่หรือไม้ดอก
ข้อพึงระวัง ->
ไม่ควรนำปุ๋ยที่ผสมกันแล้ว ไปกองบนพื้นที่เปียกชื้น เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อรา ก่อนที่จะใช้งานได้ และทุ
สัปดาห์ต้องหมั่นมากลับหน้าดินให้เข้ากันอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 2 เดือน (เอามือจุ่มในกองปุ๋ย หากไม่มีความร้อน
ก็นำไปใช้ได้กับพืชได้