ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

มะขามเทศ เป็นพืชที่พบเห็นได้ทั่วไปกระจายอยู่แทบทุกภาคของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นริมถนนหนทาง สวนหลังบ้าน หรือ ท้องทุ่งนา หรือเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพราะเป็นไม้ผลที่เจริญเติบโตเร็ว ทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี ไม่ค่อยมีปัญหาโรค แมลง เหมาะที่จะปลูกเป็นร่มเงาและเป็นพืชบำรุงดิน

วัตถุประสงค์ ->

1.เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ถึงประโยชน์ของการปลูกมะขามเทศ

2.เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปลูกมะขามเทศเพื่อขายเป็นรายได้แก่ครอบครัว

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1.ที่ดินที่น้ำท่วมไม่ถึง
2.กิ่งพันธุ์มะขามเทศพันธุ์สีชมพู
3.ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก
4.ยาฆ่าแมลง
5.ยาคุมหญ้า

อุปกรณ์ ->

1.อุปกรณ์ขุดหลุม (จอบเสียม)

2.ปุ้งกี๋

กระบวนการ/ขั้นตอน->

วิธีการปลูก  การเตรียมดิน ขุดหลุมขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ตากดินไว้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ผสมดินกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกประมาณหลุมละ 2–3 ปุ้งกี๋

          หากต้องการปลูกแบบยกร่องจะใช้ระยะปลูก 8–10 x 8-10 เมตร ในเนื้อที่ 1 ไร่ปลูกได้ประมาณ 16 – 25 ต้น ส่วนในพื้นที่ราบจะใช้ระยะปลูก 10-12x10-12 เมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 10 – 16 ต้น

          การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอทั้งต้นเล็กและต้นโต สำหรับมะขามเทศต้นโตนั้น ควรงดให้น้ำในช่วงการออกดอก เช่นเดียวกับไม้ผลชนิดอื่นๆ เพื่อให้มะขามเทศได้พักตัวและสะสมอาหารเตรียมความพร้อมที่จะออกดอกและเมื่อมะขามเทศติดดอกออกฝักแล้วจึงเริ่มให้น้ำตามปกติ

          การตัดแต่งกิ่ง ในมะขามเทศจะทำการตัดแต่งกิ่งเพื่อควบคุมทรงพุ่มไม่ให้สูงเกิน 3 เมตร

                   1.เพื่อป้องกันการปะทะจากรมแรง หากปล่อยพุ่มสูงเกินไป จะทำให้ฝักขาดได้

                   2.เพื่อง่ายแก่การกำจัดศัตรูพืช

                   3.เพื่อให้ทรงพุ่มโล่ง และกระจายได้ทั่วถึง

                   4.เพื่อง่ายต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิต

          การให้ปุ๋ย เน้นเป็นปุ๋ยอินทรีย์จึงจะประหยัดต้นทุนเนื่องจากมะขามเทศมีการตอบสนองต่อปุ๋ยอินทรีย์ได้ดี โดยวางที่โคนต้นพร้อมราดน้ำได้เลย

          การเก็บเกี่ยวผลผลิต ปกติมะขามเทศจะออกในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายน ดังนั้นถ้าทำให้มะขามเทศออกก่อนฤดู จะขายได้ราคา 80–100 บาท/กก. ส่วนในฤดูปกติจะขายได้ในราคา 40–60 บาท

ข้อพึงระวัง ->

1. ในช่วงที่ฝักเริ่มแก่ถ้าให้น้ำมากเกินไปจะทำให้คุณภาพฝักไม่ดี ฝักจะแตกเร็ว ทำให้เนื้อไม่แน่น        รสชาดไม่ดี

          2. ห้ามฉีดสารเคมีกำจัดแมลงโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ดำและเสียได้