เทคนิคการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
โดย : นายสมพงศ์ มัทเรศ วันที่ : 2017-02-01-14:50:20ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 147/1 หมู่ที่ 1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ก่อนหน้าที่จะมาทำอาชีพปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ไม่ได้ทำอาชีพเกษตรกรรม พอดีช่วงนั้นมีนายทุนมาแนะนำให้ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง โดยมีเมล็ดพันธุ์ ยาเคมี และเทคนิคการปลูกมาแนะนำ/ขายให้ แถมรับประกันราคาและการรับซื้อผลผลิต แต่พอขายผลผลิตได้ 1 ครั้ง ก็ถูกเพิกเฉย นายทุนไม่มารับซื้อผลผลิตอีกเลย ทำให้ตนเองและกลุ่มผู้ถูกหลอกอีกหลายครอบครัวต้องดิ้นรณขายผลผลิตเอง แต่ก็ไม่สามารถระบายผลผลิตได้หมด จนทำให้เกิดการรวมกลุ่มกัน เพื่อหาตลาดจำหน่ายหน่อไม้ฝรั่ง ช่วงแรกๆ หาไม่ได้แถมถูกกดราคา แต่โชคดีที่เจอแม่ค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นแม่ค้ารายใหญ่รับซื้อผลผลิตทั้งหมดจนถึงทุกวันนี้
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
2. เพื่อให้ผู้เรียนมีรายได้เพิ่มหากทำเป็นอาชีพ
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
(สำหรับปลูกหน่อไม่ฝรั่ง 1 แปลง)
1. เมล็ดพันธุ์หน่อไม้ฝรั่ง 2 ขีด
อุปกรณ์ ->
1. ผ้าสำหรับห่อเมล็ดพันธุ์ กว้าง 1 ฟุต ยาว 1 ฟุต
2. แกลบดิบ 10 กิโลกรัม
3. จอบ
4. น้ำ
5. ปูนขาว
6. ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก
7. เสียม
8. กะละมัง
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1) การเพาะต้นกล้า
1. เตรียมดินในแปลงเพาะเมล็ดหน่อไม่ฝรั่ง โดยยกแปลงดิน กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร โดยนำดินผสมกับปุ๋ยคอก
2. นำเมล็ดพันธุ์หน่อไม้ฝรั่งแช่น้ำ 1 คืน
3. นำเมล็ดพันธุ์หน่อไม้ฝรั่งแช่น้ำ 1 คืน จากนั้นนำมาห่อด้วยผ้าและทิ้งไว้ต่ออีก 2 คืน จนเมล็ดงอก
4. หยอดเมล็ดพันธุ์ทีละ 2 เม็ด ระยะห่างกันประมาณ 3 นิ้ว โดยหยอดแนวขวาง
5. ใช้แกลบดิบโรยกลบเมล็ดให้ทั่วแปลง
6. รดน้ำทุกวันเช้าและเย็น ดูแลจนครบ 3 เดือน ก็ขุดต้นกล้าขึ้นมาปลูกในแปลงปลูก
2) การนำต้นกล้าลงปลูก
1. เตรียมดินในแปลงปลูกโดยพรวนดินให้ละเอียด โรยปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก
2. ขุดหลุมในแปลงปลูกกว้าง 30 เซนติเมตร ระยะห่างของแถว 1.5 เมตร และระยะห่างของหลุม 50 เซนติเมตร
3. ใช้ปูนขาวและปุ๋ยสูตร 15-15-15 รองก้นหลุม ประมาณ 1 กำมือ จากนั้นผสมคลุกเคล้ากับดินก้นหลุมให้เข้ากัน นำต้นกล้าลงปลูก กลบหลุมด้วยดิน โรยแกลบรอบหลุม ให้น้ำทุกๆ 3 วัน
4. ให้ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ทุกๆ 15 วัน ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อ 1 ต้น/กอ
5. ดูแลไปจนครบ 6 เดือน ก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้
ข้อพึงระวัง ->
1. สภาพดินและภูมิอากาศแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน การให้น้ำควรดูด้วยว่าดินชื้นแฉะไปไหม ถ้าพบว่าดินยังชื้นแฉะอยู่ แม้จะครบ 3 แล้ว ก็ยังไม่ควรให้น้ำ หรือถ้าดินแห้งเกินไป แม้จะยังไม่ครบ 3 วัน ก็ควรให้น้ำทันที
2. ปุ๋ยคอกควรตากให้แห้งก่อนนำมาใช้ เพื่อป้องกันโรคเชื้อราในพืช