ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การปลูกข้าวโพดไร้สาร

โดย : นางสาววนิดา แก้วนิล วันที่ : 2017-05-17-11:29:16

ที่อยู่ : 65 ม.10 ต.แก้งเหนือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ข้าวโพดหวานถือว่าเป็นพืชผักชนิดหนึ่งที่คนนิยมทานกันมาก ข้าวโพดหวาน สามารถ ปลูกได้ตลอดปี แต่นิยมปลูกกันมากในช่วงฤดูฝน และสามารถปลูกได้ดีในดินทุกสภาพ แต่จะขึ้นได้ดีในสภาพดินร่วนปนทราย จะทำให้ผลผลิตดีและเก็บเกี่ยวได้เร็วกว่า ข้าวโพดหวานสามารถขายได้ราคาดีแปรรูปเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด  สามารถใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์  สร้างเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบคัวได้อีกทางหนึ่งด้วย

วัตถุประสงค์ ->

1.  เพื่อสร้างอาชีพเสริมให้เกิดขึ้นในชุมชน

2.  เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในครัวเรือน

3.  เพื่อลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชน

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

1.  เมล็ดข้าวโพด

2.  ปุ๋ยคอก

 

อุปกรณ์ ->

1.  จอบ

2.  เสียม

3.  คราด

4.  บัวรดน้ำ

5.  ที่ฉีดพ่นน้ำ

 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

นำเมล็ดข้าวโพดหวานหยอดลงไป หลุมละ 1-3 เมล็ด ลึกประมาณ 1 – 2 เซนติเมตร กลบหลุมพอประมาณ(ถ้าห่มดินด้วยฟางได้จะดีมาก) หลังหยอดเมล็ดแล้วไม่ควรปล่อยดินแห้งเกินไป ควรให้ดินมีความชื้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เมล็ดข้าวโพดเน่าได้ หลังจากหยอดเมล็ดพันธุ์ 5-7 วัน ข้าวโพดก็จะเริ่มงอก 

การเก็บเกี่ยวข้าวโพดหวานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้ข้าวโพดหวานมีคุณภาพดีหรือเลว ข้าวโพดหวานจำเป็นต้องเก็บให้ฝักสดที่สุด ควรเลือกเก็บเกี่ยวในระยะที่มีน้ำตาลสูงที่สุด และคุณภาพดีที่สุด หรือระยะที่เรียกว่า ระยะน้ำนม(Milk Stage) หากเลยระยะนี้ไปแล้วปริมาณน้ำตาลจะลดลงและมีแป้งเพิ่มขึ้น การเก็บเกี่ยวข้าวโพดหวานมีหลักพิจารณาง่ายๆ คือนับอายุ หลังจากวันหยอดเมล็ด วิธีการนี้ต้องทราบอายุของข้าวโพดหวานแต่ละพันธุ์ว่าเป็นพันธุ์หนัก, เบา หรือปานกลาง เช่นพันธุ์เบา อายุ 55-65 วัน พันธุ์ปานกลาง 70-85 วัน และพันธุ์หนักตั้งแต่ 90 วันขึ้นไป

ข้อพึงระวัง ->

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา