ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การทอผ้าบ้านกระเดียน ม.1

โดย : นางเฉลัยว แดนดี วันที่ : 2017-03-20-14:47:58

ที่อยู่ : บ้านกระเดียน ม.1 ต.กระเดียน

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

ผ้าขาวม้าเป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและต่างประเทศทั้งชาย และหญิงนิยมใช้ผ้าขาวม้ามาทำประโยชน์กันมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำกัดแต่เพียงเพศชายอย่างเดียวเหมือนในอดีต และไม่จำกัดเฉพาะทำเป็นเครื่องตกแต่งร่างกายอย่างเดียวผ้าขาวม้า เป็นอาภรณ์อเนกประสงค์ มีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนใหญ่ทอมาจากฝ้าย แต่บางครั้งอาจทอจากเส้นไหม ในบางท้องถิ่นนิยมทอจากเส้นด้ายดิบและเส้นป่าน นิยมทอสลับสีกันเป็นลายตาหมากรุกหรือเป็นลายทาง โดยมากผลิตในแถบภาคเหนือหรือภาคอีสาน มีขนาดความกว้างยาวแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะกว้างประมาณ ๓ คืบ ยาว ๕ คืบ อายุของการใช้งานจะประมาณ ๑ ถึง ๓ ปี สำหรับราคาก็จะแตกต่างกันออกไปตามวัสดุที่ใช้ (ถ้าเป็นผ้าไหมเนื้อดีจะมีราคาแพงซึ่งนิยมใช้แตะพาดบ่า หรือพาดไหล่) 

บ้านกระเดียน ม.1 ทอผ้าขาวม้าเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ในครัวเรือนและได้สืบทอดให้ลูกหลานได้เรียนรู้อาชีพเสริมเพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และมีโครงการสัมมาชีพได้เข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการให้มีการสอนอาชีพให้ครัวเรือนสัมมาชีพในชุมชนและเกิดการเรียนรู้มีอาชีพได้

วัตถุประสงค์ ->

1.เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้มากขึ้น

2.เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีแก่คนในชุมชน

3.เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

4.เพื่อเป็นการพัฒนาฝีมือในการทอเสื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

๑. ด้ายผ้าฝ้าย
๒. หม้อ
๓. แป้งข้าวจ้าว
๔. น้ำเปล่า
๕. เตาและถ่าน
๖. หลักเฝือ
๗. ฟืม
๘. อัก หรือตะกอปั่นด้าย และไม้คอนอัก
๙. หลา
๑๐. กง
๑๑. กระสวยและแกนกระสวย
๑๒. กี่ หรือ หูก

อุปกรณ์ ->

ัก

หลา

กี่

กระสวย

แกนกระสวย

 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

การทอผ้าขาวม้า

1.  เตรียมด้ายประดิษฐ์ที่ยังไม่ได้ม้วนใส่ในหลอดแปปมาใส่ โดยนำด้ายประดิษฐ์มาคล้องใส่ในอุปกรณ์

การปั่นด้าย เพื่อด้ายจะได้ม้วนออกมาใส่ในหลอดแปปโดยการใช้อุปกรณ์ในการควงเป็นตัวในการปั่นด้าย

หลังจากนั้นจึงควงด้าย ควงด้ายใส่หลอดแปปจนหมดโดยการปั่นต้องมีคนปั่นด้วย 1 คน และอีกคน 1

เป็นคนเรียงด้าย เพื่อไม่ให้พื้นที่ในการเรียงด้ายไม่เว้นว่าง ควรทำให้เต็มหลอด และไม่ให้ด้ายที่ควง พันกัน

 

    2. นำด้ายมาขึง ไว้บนอุปกรณ์การทอกี่กระตุกด้วยมือ (อุปกรณ์ประกอบขึ้นจากไม้)

3.เริ่มการทอผ้าโดยใช้อุปกรณ์การทอกี่กระตุกด้วยมือ (อุปกรณ์ประกอบจากไม้)

.   โดยใช้กระสวย เป็นตัววิ่งด้าย สลับไปมา ซ้าย-ขวา และในกระสวยจะมีม้วนด้ายที่ต่างๆ

ใส่ไว้ในกระสวย เพื่อสามารถเปลี่ยนสีด้ายได้ เช่น การทำแทบสีผ้าขาวม้า หรือ ลายสีด้าย

 

 

 

5.ทอผ้าขาวม้าต่อไปเลื่อยๆจนเสร็จ เป็นผืนหน้ากว้าง 34 นิ้ว  ความยาว 1.50 เมตร

เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย จากนั้นมาบรรจุใส่หีบห่อ ให้เรียบร้อย และนำไปจัดจำหน่ายต่ิอไปๆ

 

๑. ออกแบบลายผ้าขาวม้า โดยทั่วไปการทอผ้าขาวม้าจะนิยมทอกันอยู่ ๒ ลาย คือ ผ้าขาวม้าตาคู่และผ้าขาวม้าตาคี่ ส่วนสีที่เป็นลายนั้นแล้วแต่ผู้ทอจะใช้
๒. เมื่อได้ลายที่ต้องการแล้วก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมด้าย คือ การฆ่าฝ้าย ซึ่งเป็นการทำให้เส้นด้ายที่ทำจากฝ้ายไม่เป็นขนและทำให้เส้นด้ายแข็งขึ้น ซึ่งจะทำให้เส้นด้ายไม่พันกัน การฆ่าฝ้ายมีขั้นตอนคือ เริ่มจากนำน้ำใส่ในหม้อที่เตรียมไว้ประมาณ ๕ ลิตร ต่อแป้งข้าวเจ้า ๑ กิโลกรัม ในอดีตจะใช้ข้าวจ้าวแต่ปัจจุบันเพื่อความสะดวกจึงใช้แป้งข้าวจ้าวแทน จากนั้นต้มโดยคนให้เข้ากันจนแป้งละลายและนำมาพักไว้ให้เย็น เมื่อน้ำต้มแป้งเย็นแล้วจึงนำด้ายมาแช่และต้องขยำด้ายเพื่อให้แป้งเข้าเคลือบเส้นด้ายทั่วถึงทุกเส้น แช่ทิ้งไว้สักพักจึงนำด้ายไปผึ่งให้แห้งโดยผึ่งในที่ร่มหรือกลางแดดก็ได้ ขั้นตอนการผึ่งนั้นให้ผึ่งกับราวไม้ไผ่เพราะต้องนำด้ายมาสอดกับราวแล้วสะบัดด้ายเพื่อให้ด้ายแตกจากกัน และมีเส้นที่ตรงไม่บิดงอ
๓. ขั้นตอนการเตรียมด้าย นำด้ายที่ผึ่งจนแห้งแล้วมาใส่ในกง ซึ่งกงเป็นอุปกรณ์ที่ทำจากไม้ไผ่เหลาเป็นซี่ยาวประมาณ ๑ เมตร ๘ อัน และนำมาผูกโยงเข้ากันด้านละ ๔ อัน ด้วยเชือกและมีแกนกลาง ๑ แกน เพื่อจะกวักด้ายใส่ไว้ในอัก เพื่อเป็นการเตรียมด้ายไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป
๔.ขั้นตอนการเตรียมเครือหรือลายยืนในภาษาอิสานเรียกว่า ค้นหูก การเตรียมลายยืนนั้นจะต้องดูว่าฟืมที่ใช่มีความกว้างเท่าใด ซึ่งถ้าเป็นภาษาอิสานฟืมจะมีหน่วยนับความกว้างเป็น หลบ ฟืมที่ใช้ทอฝ้าขาวม้าจะมีขนาดกว้างต่างกัน ตามขนาดของเส้นด้ายที่ใช้ทอ ถ้าเป็นด้านเส้นใหญ่ จะนิยมใช้ฟืม ๑๐ หลบ ถ้าเป็นด้ายเส้นเล็ก นิยมใช้ ๑๒ ถึง ๑๕ หลบ ฟืมจะมีตาหรือ รู ซึ่ง ๑ รู จะใช้เส้นด้าย ๒ เส้น คือ เส้นขึ้นและเส้นลง การขึ้นเครือจะมีวิธีการคำนวณเส้นด้ายดังนี้
๔ รูฟืม เท่ากับ ๑ ควม หรือ เท่ากับ ๘ เส้นด้าย
๑๐ ควม เท่ากับ ๑ หลบ หรือ เท่ากับ ๘๐ เส้นด้าย
ถ้าเป็นฟืม ๑๐ หลบ เท่ากับ ๑๐๐ ควม หรือ เท่ากับ ๘๐๐ เส้นด้าย
เทคนิคการนับเช่นนี้ถือว่าเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมโดยแท้ซึ่งการการกำหนดลำดับก่อนหลังของลายผ้า สี หรือขนาดความกว้างของตาผ้าขาวม้านั้นชาวบ้านจะนับตามหน่วยข้างต้น
๕. เมื่อเตรียมด้ายลายยืนหรือค้นฮูกได้ตามขนาดความกว้างของฟืมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการในด้ายลายยืนที่เตรียมเสร็จแล้วมาเข้าฟืมหรือภาษาอิสานเรียกว่า สืบหูก ฟืมเป็นอุปกรณ์ในการทอผ้าที่มีส่วนประกอบ คือ ตัวฟืม มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีซี่หลาย ๆ ซี่ตรงกลาง และมีเขาฟืมเพื่อดึงเส้นด้ายลายยืนให้ขึ้นลงขัดกับด้ายลายพุ่งในขั้นตอนการทอ ซึ่งเขาฟืมจะมีจำนวนตามลายว่าเป็นลายด้ายยืนว่าต้องการให้เป็นลายดอกหรือลายขัดธรรมดา ถ้าเป็นลายดอกฟืมจะมี ๔ เขา ถ้าเป็นผ้าขาวม้าจะนิยมใช้ฟืม ๒ เขาซึ่งเป็นลายขัด การสืบหูก คือ การนำเครือหรือด้ายลายยืนต่อเข้ากับด้ายเก่าที่ติดมากับฟืมโดยต่อตามลำดับของลายที่ได้ค้นไว้ที่ละเส้น เมื่อต่อเสร็จครบทุกสันแล้วจึงนำไปขึ้นกี่เพื่อเตรียมทอต่อไป
๖. ต่อไปเป็นการเตรียมด้ายลายพุ่ง มีวิธีการ คือ นำด้ายสีเดียวกันกับลายยืนมาปั้นใส่หลอดของกระสวยให้ได้ขนาดของกระสวย โดยใช้หลาเป็นอุปกรณ์ในการปั่นด้ายออกจากอัก
๗. เมื่อเตรียมเครือหรือด้ายลายยืน และด้ายลายพุ่งเสร็จแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่จะทอด้ายจากเส้นให้เป็นผืนผ้าขาวม้า โดยการนำด้ายที่ปั้นใส่หลอดมาใส่กระสวยซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการนำด้ายลายพุ่งให้วิ่งสอดขัดกับด้ายลายยืนกลับไปกลับมาทีละเส้นทีละสีตามลายที่กำหนดไว้ไปเรื่อยๆ จนได้ความยาวตามต้องการ เป็นอันเสร็จขั้นตอน

ข้อพึงระวัง ->

การทอหรือการ ต่ำหูก ในภาษาอิสาน ต้องตึงฟืมเข้าหาตัวในน้ำหนักที่เท่ากันจึงจะทำให้ผ้าที่ออกมามีความเรียบสม่ำเสมอกัน

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา