เทคนิคการทอผ้าไหม
โดย : นางเลียง แหวนเพชร ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-04-02-16:18:31ที่อยู่ : 135 หมูที่ 15 ตำบลไพรบึง
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คือการท้านา ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ปลูกพริก ค้าขาย ทอผ้าไหม อาชีพเสริมก็คือการรับจ้างทั่วไป รายได้ของประชากรส่วนใหญ่ คือการท้านา รายได้รอง คือ เลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ไก่ เป็ด เลี้ยงปลา รองลงมา คือปลูกพริก และปลูกพืชต่างๆ ตามความถนัด และเริ่มทอผ้าไหมที่สืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษที่ทอผ้าเพื่อเป็นเครื่องนุ่งห่ม และปัจจุบันการทอผ้าก็เป็นการสร้างอาชีพเสริม เพื่ออาชีพเสริมหลังฤดูการทำนา สร้างรายได้ในชุมชนอีกทาง
วัตถุประสงค์ ->
การมัดหมี่ เป็นกรรมวิธีที่สำคัญที่สุดที่จะทำผ้าไหมให้เป็นลายและสีสันต่าง ๆ ในการมัดหมี่ให้เป็นลายและสีต่าง ๆ นั้น ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีและความนิยมของผู้ใช้เป็นสำคัญ เพราะลายและสีของผ้าไหมมีมากมายเหลือเกิน เช่น ถ้าต้องการผ้าไหมมีลายเล็ก ๆ เต็มผืนและหลาย ๆ สี ต้องใช้ผู้ที่มีฝีมือปราณีตในการมัดหมี่ ขณะเดียวกันค่าแรงงานในการจ้างมัดหมี่ก็แพงขึ้นด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการมัดหมี่ คือ มีดบางเล็ก ๆ หรือใบมีดโกนชนิดมีด้าม เชือก ฟาง (สมัยก่อนใช้กาบกล้วยแห้ง) "ฮงหมี่" และ "แบบลายหมี่" การมัดลายเต็มตัว (เต็มผืน) ผู้มัดจะต้องมัดลายตามแบบลายหมี่ให้เต็ม
การแก้หมี่ คือกรรมวิธีแก้เชือกฟางที่ใช้มัดลำหมี่แต่ละลำออกให้หมดโดยใช้มีดบางเล็ก ๆ หรือใบมีดโกนชนิดมีด้าม การแก้หมี่จะต้องทำอย่างระมัดระวังอย่าให้มีดถูกเส้นไหมขาด ไหมที่แก้เชือกฟางออกหมดแล้ว จะเห็นลายหมี่ได้สวยงามและชัดเจนมาก
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
การลงมือทำ ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน กระบวนการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถเป็นที่ต้องการของตลาดต่อไปได้
อุปกรณ์ ->
-
กระบวนการ/ขั้นตอน->
การแก้หมี่ คือกรรมวิธีแก้เชือกฟางที่ใช้มัดลำหมี่แต่ละลำออกให้หมดโดยใช้มีดบางเล็ก ๆ หรือใบมีดโกนชนิดมีด้าม การแก้หมี่จะต้องทำอย่างระมัดระวังอย่าให้มีดถูกเส้นไหมขาด ไหมที่แก้เชือกฟางออกหมดแล้ว จะเห็นลายหมี่ได้สวยงามและชัดเจนมาก
ข้อพึงระวัง ->