เทคนิคการส่งเสริมการสร้างสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน
โดย : นายสุวิน พิมมาศ ตำแหน่ง : เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน วันที่ : 2017-03-27-20:25:20ที่อยู่ : สนง.พัฒนาชุมชนอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
นโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) โดยกำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ สู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนได้บูรณาการการสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม (โดยเฉพาะในภาคการเกษตรและชนบท เป็นการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปากท้องและความเป็นอยู่โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจฐานรากของประชาชน) ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ยุทธศาสตร์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้
กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการไปสู่การปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรมในพื้นที่เป้าหมาย (จากพื้นฐานหมู่บ้านที่มีความพร้อมและมีโครงการที่เคยขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆในระดับหนึ่ง แล้ว)
จากการวิเคราะห์ปัญหาจากเวทีที่ 1 จากข้อมูลที่จัดเก็บและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อส่งเสริมอาชีพจะพบว่าการประกอบอาชีพของพี่น้องในภาคเกษตรในชุมชน มีปัจจัยความเสี่ยงที่เกิดจากการประกอบอาชีพแบบดังเดิม ไม่มีอาชีพหรือรายได้เสริมหลังฤดูเก็บเกี่ยว มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มหรือมีความรู้ในการบริหารจัดการกลุ่ม หรือแม้แต่การจัดทำบัญชีครัวเรือนแบบง่ายๆ หรือทำแล้วเกิดปัญหาไม่สามารถหาออกได้หรือมีแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ หรือแม้แต่ศูนย์เรียนรู้ ศูนย์สาธิต ศูนย์ฝึกอาชีพที่มีอยู่ ก็ไม่สามารถที่สนองตอบต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนได้ โดยเราลืมไปว่า เรายังมีองค์ความรู้ ภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านที่น่าจะสนองตอบต่อความต้องการได้ โดยต้องการลบคติที่ว่า “ใกล้เกลือ กินด่าง”
ตามแนวทางการดำเนินงานของกรมฯและนำไปสู่แผนการปฏิบัติงานในพื้นที่เน้นการยกระดับความเป็นอยู่ เพื่อทำให้ครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการเสริมสร้างสัมมาชีพชุมชน อันจะเป็นการสนองตอบต่อหลักการของสัมมาชีพชุมชน คือ เป็นอาชีพที่สุจริต ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม ไม่เบียดสังคม ให้ชาวบ้าน (ปราชญ์ชาวบ้าน) สอนชาวบ้านในสิ่งที่เขาอยากรู้ อยากฝึก อยากทำ ปฏิบัติจริง โดยมีพัฒนาการอำเภอ พัฒนากรผู้ประสานงาน ทีมสนับสนุนการขับเคลื่อนสัมมาชีพระดับอำเภอ (กลุ่ม องค์กรเครือข่าย) เป็นพี่เลี้ยง ทำให้อาชีพที่เลือกสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ทั้งอาจจะเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมได้ ตลอดจนสามารถรวมกลุ่มการผลิต ผลิตภัณฑ์หมู่บ้านชุมชน สู่หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ( OTOP) ได้ เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งต่อไป
วัตถุประสงค์ ->
4.1 กระบวนการ
4.1.1 การพัฒนาทักษะการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับปราชญ์ชุมชน วิทยากรผู้นำสัมมาชีพ (ครูใหญ่ ) และครูน้อย ๔ คน รวมทั้งสิ้นหมู่บ้านละ 5 คน ได้สร้างทีมและเตรียมความพร้อมทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน เสร็จแล้ว ได้คัดเลือกครัวเรือนสัมมาชีพหมู่บ้านละ 20 คนเป้าหมายตามแนวทางของกรมฯ
4.1.2 ร่วมกับ “ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน (ครูใหญ่ ครูน้อย) ” ร่วมสังเคราะห์ข้อมูลอาชีพ รวมถึงทักษะพื้นฐาน ซึ่งเป็นต้นทุนที่มีความจำเป็นมากในเบื้องต้น
4.1.3 ร่วมกับ “ทีมวิทยากรสัมมาชีพชุมชนระดับหมู่บ้าน”ดำเนินการฝึกอาชีพอบรมพัฒนาความรู้ และเสริมสร้างทักษะการพัฒนาอาชีพตามความต้องการของครัวเรือน ให้แก่ผู้แทนครัวเรือนเป้าหมาย จานวน 20 คน ระยะเวลา 5 วัน
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
6. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ
6.1 มีศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไส้เดือนดิน ในเขตอำเภอขุนหาญ (นำร่อง) ชุมชนเกิดความภาคภูมิใจในแนวทางสัมมาชีพชุมชน
6.2 ชุมชนมีความภาคภูมิใจและได้ตระหนักถึงความสำคัญของหมู่บ้านชุมชนที่ทางราชการโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอขุนหาญ ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ
6.3 ทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ทีมงานสนับสนุนการขับเคลื่อนสัมมาชีพชุมชนในระดับอำเภอ พัฒนากรผู้ประสานงานตำบลได้ร่วมกิจกรรมในทุกขั้นตอนและกระบวนการจนเสร็จสิ้นเรียบร้อย
6.4 ความรัก ความสามัคคีของหมู่บ้านชุมชน อันจะก่อให้เกิดเป็นพลังชุมชนในการพัฒนาชุมชนต่อไป
อุปกรณ์ ->
การดำเนินงานสัมมาชีพชุมชน เป็นงานที่ท้าทายพัฒนากร การให้การส่งเสริม สนับสนุนต้องมีความอดทนและอดกลั้น เพ่ือวางรากฐานงานสัมมาชีพชุมชนให้ติดเทรนด์เคียงข้างพี่น้องประชาชนต่อไป
กระบวนการ/ขั้นตอน->
4.2 เทคนิค
4.2.1 ใช้เทคนิค สร้างแรงจูงใจ คิดเชิงสร้างสรรค์ (คิดบวก) มองอนาคตให้ไกลแล้วก้าวไปให้ถึง
4.2.2 ใช้หลักการมีส่วนร่วม ร่วมคิด แนะนำ เป็นผู้เอื้อ และกระตุ้นให้เกิดการอยากรู้ อยากเห็นความสำเร็จ
๕. ผลงานการสร้างสัมมาชีพชุมชนบ้านตาเส็ด (เลี้ยงไส้เดือนดินพันธุ์ AF- african night crawler)
5.1 บ้านตาเส็ด หมู่ที่ 6 ตำบลบักดอง สามารถตั้งกลุ่มเลี้ยงไส้เดือนดิน ซึ่งเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่
ส่งผลให้ครัวเรือนมีปุ๋ยจากไส้เดือน นำมาใช้ในครัวเรือนใส่พืชผักสวนครัว นาข้าวพืชไร่ เป็นการลดรายจ่าย สามารถต่อยอดไปสู่ครัวเรือนอื่นๆในหมู่บ้านได้
5.2 บ้านตาเส็ด หมู่ที่ 6 ตำบลบักดอง มีทุนเดิมอยู่แล้วคือการดำเนินงานจากงบประมาณของโครงการ 365 วันศรีสะเกษพัฒนา ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และบ้านสวย เมืองสุข โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาดำเนินการ โดยเน้นที่การใช้ในครัวเรือนและเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว สามารถต่อยอดสู่การจำหน่าย การค้าขาย ขยายผลต่อไป
ข้อพึงระวัง ->