การปลูกล้วย
โดย : นางนาง สุวรรณสน ตำแหน่ง : ปราชญ์ชุมชน วันที่ : 2017-03-31-21:02:55ที่อยู่ : 1 ม.12 ต.หนองใหญ่
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
ต้องการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับครอบครัว
วัตถุประสงค์ ->
1.1 การเตรียมดิน
· วิเคราะห์ดิน เพื่อประเมินค่าความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารพืชในดิน และความเป็นกรดด่างของดิน ปรับสภาพดินตามคำแนะนำก่อนปลูก
· ไถพรวน ตากดินทิ้งไว้ ๑ เดือน เพื่อลดการระบาดของศัตรูพืช คราดเก็บเศษวัชพืชออกจากแปลง
1.2 ฤดูปลูก
· ในเขตภาคเหนือตอนล่างปลูกเดือนกันยายน – พฤศจิกายน เพื่อหลีกเลี่ยงผลผลิตด้อยคุณภาพ กล้วยผลเล็ก ก้านเครือแห้งและหักล้ม เนื่องจากกล้วยขาดน้ำ และประสบภาวะอุณหภูมิสูงในช่วงการพัฒนาการของผล ในท้องที่ที่มีสภาพภูมิอากาศต่างไป กำหนดฤดูปลูกโดยให้มีช่วงเวลาหลังปลูกประมาณ ๗ – ๘ เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะการขาดน้ำและอุณหภูมิสูงในช่วงการพัฒนาการของผล
1.3 วิธีการปลูก
· ใช้หน่อพันธุ์ที่สมบูรณ์ในระยะที่มีใบแคบ ลำต้นสูง ๓๐ – ๕๐ เซนติเมตร
· ระยะปลูกระหว่างแถวและต้น ๒ x ๒ เมตร หรือ ๒.๕ x ๒.๕ เมตร
· ขุดหลุมปลูกขนาด ๕๐ x ๕๐ x ๕๐ เซนติเมตร
· รองก้นหลุมด้วยดินผสมกับปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้ว อัตรา ๕ กิโลกรัมต่อหลุม โดยสูงจากก้นหลุมประมาณ ๑ ใน ๓ ของหลุม หากต้องการไว้ตอ ๒ – ๓ ปี ควรเพิ่มหินฟอสเฟตอัตรา ๑๐๐ – ๒๐๐ กรัมต่อหลุม
· วางหน่อพันธุ์ที่ก้นหลุมให้ลึกประมาณ ๒๕ เซนติเมตร โดยจัดวางหน่อพันธุ์ให้ด้านที่ต้นแม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้มีการออกดอกไปในทิศทางเดียวกัน สะดวกในการปฏิบัติดูแลรักษา
· กลบดินที่เหลือลงในหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่นและคลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง
· รดน้ำให้ชุ่ม
2. การดูแลรักษา
2.1 การให้ปุ๋ย
· ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ๑ ครั้ง เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก่อนปลูก อัตรา ๓ – ๕ กิโลกรัมต่อหลุม ใส่ปุ๋ยเคมี ๔ ครั้ง
· ใส่ปุ๋ยเคมี ครั้งที่ ๑ และ ๒ หลังจากปลูก ๑ เดือน และ ๓ เดือน เป็นระยะที่กล้วยมีการเจริญเติบโตทางลำต้น ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร ๒๐–๑๐-๑๐ หรือ ๑๕-๑๕-๑๕ อัตรา ๑๒๕ - ๒๕๐ กรัมต่อต้นต่อครั้ง
· ใส่ปุ๋ยเคมี ครั้งที่ ๓ และครั้งที่ ๔ หลังจากปลูก ๕ เดือน และ ๗ เดือน เป็นระยะที่กล้วยเริ่มให้ผลผลิต ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร ๑๒-๑๒-๒๔ หรือ ๑๔-๑๔-๒๑ อัตรา ๑๒๕ - ๒๕๐ กรัมต่อต้นต่อครั้ง
· ปุ๋ยเคมี ใส่โดยโรยห่างต้นประมาณ ๓๐ เซนติเมตร หรือใส่ในหลุมลึกประมาณ ๑๐ เซนติเมตร ทั้ง ๔ ด้าน แล้วพรวนดินกลบ
2.2 การให้น้ำ
· ในฤดูฝน เมื่อฝนทิ้งช่วง สังเกตหน้าดินแห้งและเริ่มแตก ควรรีบให้น้ำ
· ในฤดูแล้ง เริ่มให้น้ำตั้งแต่หมดฝน ประมาณปลายเดือนมกราคม – พฤษภาคม
· วิธีการให้น้ำ ชาวสวนนิยมปล่อยให้น้ำไหลเข้าไปในแปลงย่อยเป็นแปลง ๆ เมื่อดินมีความชุ่มชื้นดีแล้วจึงให้กับแปลงอื่นต่อไป
· ปริมาณน้ำที่ให้ สังเกตดินในแปลงเปียกชื้น แฉะเล็กน้อย จึงหยุดให้
2.3 การตัดแต่งและดูแลต้นกล้วย
· หลังปลูกกล้วย ๑ เดือน พรวนดินเพื่อให้ดินโปร่ง เก็บความชื้นได้มาก และดายหญ้าสม่ำเสมอ
· การพูนโคน ในขณะที่ดายหญ้าและพรวนดิน โดยดินเข้าหากอกล้วย ช่วยลดปัญหาโค่นล้มของต้นกล้วยและป้องกันรากของหน่อตาม โดยเฉพาะกล้วยตอที่เกิดจากหน่อตาม ปีที่ ๒ และปีที่ ๓
· การแต่งหน่อ หลังจากปลูกกล้วยประมาณ ๕ เดือน แต่งหน่อตามเพื่อให้ต้นแม่มีความสมบูรณ์ โดยใช้มีดยาวปลายขอ เรียกว่า “มีดขอ” ปาดเป็นรอยเฉียงตัดขวางลำต้นเอียงทำมุม ๔๕ องศากับลำต้น โดยรอยปาดด้านล่างอยู่สูงจากโคนต้น ประมาณ ๑๐ – ๑๕ เซนติเมตร หลังจากนั้นประมาณ ๒๐ – ๓๐ วัน ทำการปาดหน่อครั้งที่ ๒ ให้รอยปาดอยู่ทิศทางตรงข้ามกับรอยปาดครั้งแรก และให้รอยปาดมุมล่างสุดอยู่สูงจากโคนต้นประมาณ ๒๐ – ๒๕ เซนติเมตร ทำการแต่งหน่อเช่นนี้ต่อไปจนกว่าถึงเวลาเหมาะสม จะปล่อยหน่อให้เจริญเติบโตเป็นต้นกล้วย หรืออาจขุดหน่อไว้สำหรับปลูกใหม่ หรือขายต่อไป
3. ศัตรูของกล้วยน้ำว้าและการป้องกันกำจัด
3.1 โรคที่สำคัญและการป้องกันกำจัด
3.1.1 โรคใบลาย
สาเหตุ เชื้อรา
ลักษณะอาการ เชื้อราเข้าทำลายใบกล้วยตั้งแต่อายุ ๒ – ๓ เดือน จะเห็นอาการด้านบนของใบล่างมีลักษณะเป็นปื้นหรือแถบสีส้มปนน้ำตาล ส่วนด้านใต้ใบพบกลุ่มเส้นใยและสปอร์จำนวนมาก ต่อมาใบที่เป็นโรคเปลี่ยนเป็นสีสนิมทั้งใบ และแห้งเป็นสีน้ำตาล
ช่วงเวลาระบาด ช่วงฝนตกชุก
การป้องกันกำจัด
· ตัดแต่งใบกล้วยให้มีจำนวนใบต่อต้นที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีใบแน่นทึบ เกิดความชื้นสูง ซึ่งเหมาะสมกับการระบาดของโรค
· ใบที่เป็นโรคควรตัดออก นำไปนอกแปลงปลูกและเผาทำลายเมื่อแห้ง
3.2 แมลงศัตรูที่สำคัญ และการป้องกันกำจัด
3.2.1 ด้วงงวงกล้วย
ลักษณะและการทำลาย ตัวเต็มวัยทำความเสียหายได้บ้างเล็กน้อย ระยะหนอนทำความเสียหายแก่ต้นกล้วยมากที่สุด ตัวหนอนเจาะกัดกินและไชชอนอยู่ภายในเหง้าของกล้วยใต้ระดับผิวดินบริเวณโคนต้น จึงไม่เห็นการทำลาย หนอนสามารถทำลายต้นกล้วยได้ทุกระยะ
ช่วงเวลาระบาด ตลอดฤดูปลูก
การป้องกันกำจัด
· เลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีการระบาดของแมลงศัตรูชนิดนี้
· ขยายพันธุ์จากหน่อพันธุ์ที่สมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากแมลงศัตรูและโรค
· รักษาความสะอาดของแปลงปลูกอยู่เสมอ หากพบกล้วยที่ตายควรเก็บรวบรวมเผาทำลาย
· การปลูกพืชหมุนเวียนสลับ ๑ ปี หลังปลูกกล้วยติดต่อกันนานกว่า ๓ ปี จะช่วยลดปริมาณแมลงศัตรูชนิดต่าง ๆ ได้
3.2.2 ด้วงเจาะลำต้น
ลักษณะและการทำลาย ตัวเต็มวัยวางไข่ตามบริเวณกาบกล้วย ส่วนของลำต้นที่เหนือพื้นดินขึ้นไปจนถึงประมาณกลางต้น ตัวหนอนกัดกินเซลล์ต้นกล้วยเข้าไปถึงไส้กลางของต้น มองเห็นข้างนอกรอบต้นเป็นรูพรุนทั่วไป ทำให้ต้นกล้วยตาย หากเข้าทำลายในระยะใกล้ออกปลีจนถึงตกเครือ จะทำให้เครือหักพับกลางต้น หรือเหี่ยวเฉายืนต้นตาย
ช่วงเวลาระบาด ระยะกล้วยที่โตแล้วหรือระยะกล้วยออกปลีจนถึงตกเครือ
การป้องกันกำจัด
· เลือกพื้นที่ปลูกกล้วย ที่ไม่เคยมีการระบาดของโรคและแมลงศัตรู
· ขยายพันธุ์จากหน่อที่สมบูรณ์ แข็งแรง ปราศจากโรคและแมลงศัตรู ไม่ควรวางหน่อกล้วยที่ขุดใหม่บนพื้นดินข้ามคืนเพราะแมลงจะเข้าวางไข่ได้
· รักษาความสะอาดของแปลงปลูกเสมอ เก็บฝังหรือเผาทำลายต้นกล้วยหรือปลีที่เน่า
· การปลูกพืชหมุนเวียนสลับ ๑ ปี หลังปลูกกล้วยติดต่อกันนานกว่า ๓ ปี จะช่วยลดปริมาณแมลงศัตรูชนิดต่าง ๆ ได้
3.2.3 หนอนม้วนใบกล้วย
ลักษณะและการทำลาย หนอนวัยแรกจะกัดกินอยู่ใต้ใบ โดยเริ่มจากขอบใบก่อนและขยายเป็นแถบกว้างเพื่อใช้ม้วนห่อตัว ระยะหนอน ๒๓ – ๒๕ วัน เข้าดักแด้ภายในหลอดประมาณ ๑๐ วัน และเป็นผีเสื้อ ใบกล้วยที่ถูกหนอนกัดกินมากทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากใบกล้วยได้
ช่วงเวลาระบาด ตลอดฤดูปลูก
การป้องกันกำจัด
· เก็บทำลายตัวหนอนม้วนที่พบตามใบกล้วย
4. การเก็บเกี่ยว
4.1 อายุเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม
· เก็บเกี่ยวหลังตัดปลีประมาณ ๔๕ วัน
· กล้วยที่ตกเครือช่วงฤดูหนาวผลจะแก่ช้า อายุเก็บเกี่ยวประมาณ ๕๐ – ๕๕ วัน หลังจากตัดปลี
4.2 วิธีการเก็บเกี่ยว
· ใช้มีดคมตัดเครือกล้วย
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
การดูแลเอาใจใส่ การให้น้ำและการใส่ปุ๋ยให้กับกล้วย
อุปกรณ์ ->
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ข้อพึงระวัง ->