ความรู้สัมมาชีพชุมชน

การทำน้ำหมักชีวภาพ

โดย : นายดนต์ ศรีมงคล วันที่ : 2017-03-31-16:13:27

ที่อยู่ : 31 ม.6 ต.ห้วยใต้

ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

บ้านปราสาท  ม.6 ต.ห้วยใต้ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม นิยมทำการเกษตรเคมีมากกว่ายึดรูปแบบตามธรรมชาติ   การใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณมากแทนธาตุอาหารที่เป็นอินทรียวัตถุและการใช้สารเคมีฆ่าแมลงแทนสมุนไพร  เพื่อการกำจัดศัตรูพืช  ก่อให้เกิดปัญหาด้านต่าง ๆ เช่น  ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม  ปัญหาต่อความปลอดภัยสุขภาพของเกษตรกร  ตลอดจนปัญหาการตกค้างของสารเคมี ผลิตผลทางการเกษตร ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค 

วัตถุประสงค์ ->

เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม  ปัญหาต่อความปลอดภัยสุขภาพของเกษตรกร  ตลอดจนปัญหาการตกค้างของสารเคมี ผลิตผลทางการเกษตร ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค 

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

    1. เศษพืชผัก ผลไม้ หรือเศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า  จำนวน 30 ก.ก.

    2. กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง  จำนวน 10 ลิตร

   3. น้ำ  จำนวน 30 ลิตร

   4. สารเร่ง พ.ด. 7  จำนวน 1 ห่อ

 

อุปกรณ์ ->

   1. มีด

   2. ถังสำหรับหมักบรรจุ 50 ลิตร

กระบวนการ/ขั้นตอน->

1. นำวัตถุดิบมาสับ บด โขลก หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

2. บรรจุลงในภาชนะ

3. เติมกากน้ำตาล หรือน้ำตาลทรายแดง และส่วนผสมอื่น ๆ ลงไป ตามอัตราส่วน

4. คนหรือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาภาชนะ หมักไว้ 7-15 วัน

5. ครอบตามกำหนดปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพจะมีกลิ่นหอม

6. สำหรับปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพถั่วเหลือง และปุ๋ยหมักน้ำชีวภาพปลาสดหรือหอยเซลรี่ ควรหมักอย่างน้อย 1 เดือน จึงนำไปใช้ได้ และระหว่างหมักให้หมั่นคนส่วนผสมทุกวัน

7. หากมีกลิ่นเหม็นหรือบูดเน่าให้เติมกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากันทิ้งไว้ 3-7 วัน กลิ่นเหม็นหรือกลิ่นบูดเน่าจะหายไป

8. การแยกกากและน้ำชีวภาพ โดยใช้ถุงอาหารสัตว์ ถุงปุ๋ยเคมี หรือมุ้งเขียว รองรับกากและน้ำชีวภาพจะไหลลงภาชนะที่เตรียมไว้ และกากที่เหลือนำไปคลุมโคนพืช หรือคลุมแปลงต่อไปได้อีก

ข้อพึงระวัง ->

1. ควรเลือกใช้เศษพืชผัก ผลไม้ หรือเศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า สับหรือบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในภาชนะที่มีปากกว้าง เช่นถังพลาสติกหรือโอ่ง หากมีน้ำหมักชีวภาพอยู่แล้วให้เทผสมลงไปแล้วลดปริมาณกากน้ำตาลลง ปิดฝาภาชนะทิ้งไว้จนได้เป็นน้ำหมักชีวภาพจากนั้นกรอกใส่ขวดปิดฝาให้สนิทรอการใช้งานต่อไป 

2. ในระหว่างการหมัก ห้ามปิดฝาภาชนะจนแน่นสนิทเพราะอาจทำให้ระเบิดได้เนื่องจากระหว่าง การหมักจะเกิดก๊าชต่าง ๆ ขึ้นเช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซมีเทนเป็นต้น

3.ไม่ควรเลือกพืชจำพวกเปลือกส้ม ใช้ทำน้ำหมัก เพราะมีน้ำมันที่ผิวเปลือกจะทำให้จุลินทรีย์ไม่ย่อยสลายการทำน้ำหมักชีวภาพ ไม่ใช่เรื่องยากแต่ต้องอาศัยเวลาและความอดทน ที่สำคัญน้ำหมักชีวภาพไม่มีสูตรที่ตายตัว เราสามารถทดลองทำปรับเปลี่ยนวัตถุดิบให้เหมาะสมกับต้นไม้ของเรา เพราะสภาพแวดล้อมแต่ละท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน ต้นไม้แต่และถิ่นก็ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน น้ำหมักชีวภาพจึงจำเป็นต้องมีความแตกต่างกันตามท้องถิ่น

เว็บไซต์สัมมาชีพชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย

โทรศัพท์ :
Email :
ที่อยู่ :

เกี่ยวกับเรา