การเลี้ยงไก่พื้นบ้าน
โดย : นายสุวินัย บุญจันทร์ วันที่ : 2017-03-26-12:45:47ที่อยู่ : 71 หมู่ที่ 12 ตำบลคาโกน
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เมื่อก่อน อาชีพหลักของข้าพเจ้า คือทำนา นอกช่วงฤดูทำนา ก็ไปรับจ้างต่างจังหวัด ต่อมาจึงเกิดความคิดอยากมีรายได้เสริมที่บ้าน ไม่ต้องไปรับจ้างต่างจังหวัด จึงได้เริ่มต้นทำอาชีพเสริม โดยการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน โดยเริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงต่างๆ จากการอบรม การค้นหาข้อมูลจากหนังสือ และจากผู้มีประสบการณ์ในการเลี้ยง โดยข้าพเจ้าเริ่มเลี้ยงไก่พื้นบ้าน ทำให้เกิดความชำนาญ เกี่ยวกับวิธีการ ขั้นตอนในการเลี้ยงเป็นอย่างดี ทำให้มีรายได้เสริม เพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน และเก็บออม
วัตถุประสงค์ ->
1.เพื่อสร้างอาชีพเสริม
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
พันธุ์ไก่พื้นบ้าน
อุปกรณ์ ->
เล้า สุ่ม รางอาหาร ภาชนะใส่น้ำ
กระบวนการ/ขั้นตอน->
ไก่พื้นเมือง หรือเรียกว่า ไก่บ้าน หรือไก่ไทยเป็นไก่ที่เลี้ยงง่าย กินอาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาติได้ เริ่มต้นจากซื้อลูกไก่อายุประมาณ 1 เดือนขึ้นไปมาเลี้ยง สร้างโรงเรือนหรือเล้าให้ไก่นอนแบบง่ายๆ โดยใช้วัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่นำมากั้นเป็นเล้า มุงหลังคาด้วยแฝกหรือจาก พื้นเล้าต้องไม่ชื้นแฉะ อาจปูด้วยแกลบ ขี้เลื่อย หรือฟางแห้ง หนาอย่างน้อย 4 ซ.ม. และต้องเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือนให้หนาเท่าเดิมอยู่เสมอ เล้าไก่ต้องมีประตูเปิด-ปิดได้ เพื่อให้ไก่ออกหาอาหารกินเอง ภายนอกได้
- เล้ากว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร เลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ได้ 30 - 40 ตัว
- เล้ากว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร สูง 1 เมตร เลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ 6 - 8 ตัว
ภายในเล้าประกอบด้วยอ่างดิน แล้วเอาลวด
1. ภาชนะใส่น้ำ ซื้อที่บรรจุน้ำสำหรับไก่ หรือใช้ภาชนะอื่น เช่น ตาข่ายมาดัดโค้งคลุมภาชนะ เพื่อให้ไก่ยื่นคอไปดื่มกินได้เท่านั้น ไม่อาจเหยียบย่ำให้หกเลอะเทอะได้
2. รางอาหาร ทำด้วยไม้ไผ่ผ่าครึ่ง และใช้สลักตอกยึดกับพื้นไม่ให้รางพลิก
3. รังไข่ เพื่อให้แม่ไก่ไข่และฟักไข่ ใช้เข่งขนาดกลางรองด้วยหญ้าหรือฟางแห้งให้ถึงครึ่ง ตั้งไว้ในที่มิดชิด แต่ไม่ร้อนเกินไป และให้มีจำนวนรังไข่เท่ากับจำนวนแม่ไก่ที่จะไข่
4. ม่านกันฝน ด้านที่ฝนสาดหรือแดดส่องมากๆ ควรมีกระสอบหรือเสื่อเก่า ๆ บังไว้
5. คอนนอน สำหรับให้ไก่นอน ควรทำจากไม้กลมพาดไว้มุมใดมุมหนึ่งของเล้า
การให้อาหารไก่
1. มีน้ำสะอาดตั้งไว้ให้ไก่กินตลอดวัน และเปลี่ยนน้ำทุก ๆวัน
2. ให้อาหารหลายๆ ชนิดผสมกันทุกเช้า-เย็น ได้แก่ ปลายข้าว รำข้าว ข้าวโพดป่น ปลาป่น ข้าวเปลือก กากถั่ว กากมะพร้าว เป็นต้น หรือใช้หัวอาหารไก่สำเร็จรูปผสมกับรำข้าวหรือปลายข้าวก็ได้ ที่สำคัญควรมีเปลือกหอยป่นผสมเกลือป่น และผักสด เช่น ใบกระถิน ใบแค ให้ไก่กินทุกวัน เพื่อเสริมสร้างแร่ธาตุและไวตามิน
การเลี้ยงไก่เพื่อขาย
เมื่อไก่อายุประมาณ 3-4 เดือน(ไก่รุ่น) ต้องนำมาขุน โดยให้กินอาหารอย่างดีเต็มที่ ประมาณ 1 เดือน น้ำหนักตัวประมาณ 1 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งสามารถขายส่งตลาดเป็นไก่เนื้อได้
การเลี้ยงไว้กินไข่
แม่ไก่จะเริ่มให้ไข่เมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน เมื่อแม่ไก่ออกไข่ วันรุ่งขึ้นจะไข่ใหม่อีก 1 ใบ ให้เก็บไข่ใบเก่าออก และเก็บออกทุกๆ วัน โดยให้เหลืออยู่ในรังไข่ใบเดียว พอสังเกตเห็นว่าไก่จะเริ่มฟักไข่ คือกินอาหารน้อยลง เพื่อบังคับตัวเองไม่ให้ไข่ต่อไป ต้องแยกแม่ไก่มาขังเลี้ยงไว้ต่างหาก และหาอาหารที่มีโปรตีน เช่น ปลาป่นกับรำและปลายข้าวให้ไก่กิน นำพ่อพันธุ์ใส่ให้อยู่ด้วยกันประมาณ 4-5 วัน ไก่จะเริ่มไข่ แม่ไก่จะไข่ปีละประมาณ 3-4 ชุด ๆ ละ 10-12 ฟอง
การขยายพันธุ์
เมื่อสังเกตเห็นแม่ไก่มีสีขนและหน้าเริ่มซีดมาก ขนจะเริ่มร่วง มันจะผลัดขนและไม่ไข่ ในช่วงนี้ควรปล่อยให้แม่ไก่ฟักไข่ โดยใช้เวลาฟักไข่จนออกเป็นตัวประมาณ 21 วัน เมื่อลูกไก่ฟักออกหมดแล้ว ควรเอาฟางที่รองรังไข่รวมทั้งเปลือกไข่เผ่าทิ้งเสียและทำความสะอาดรังไข่
การเลี้ยงลูกไก่
เมื่อลูกไก่ออกจากไข่หมดแล้ว ควรให้แม่ไก่เลี้ยงลูกเองโดยการย้ายทั้งแม่ไก่และลูกไก่มาขังในสุ่มบนพื้นดินที่แห้ง ในระยะแรกควรมีถาดอาหารใส่รำ ปลายข้าว หรือเศษข้าวสุกให้ลูกไก่กิน และมีถ้วยหรืออ่างน้ำตื้น ๆ ใส่น้ำสะอาดให้กินตลอดเวลา เมื่อลูกไก่อายุประมาณ 2 อาทิตย์ และแข็งแรงดีแล้ว จึงเปิดสุ่มออก ปล่อยให้ลูกไก่ไปหากินกับแม่ไก่ได้ หรือถ้าต้องการให้แม่ไก่เตรียมตัวไข่รุ่นต่อไปเร็วขึ้น ก็ให้แยกลูกออกจากแม่ไปเลี้ยงในสุ่มต่างหาก เพื่อให้ลูกไก่แข็งแรง จนอายุได้ 1-2 เดือน จึงปล่อยเลี้ยงในเล้าได้
การคัดเลือกพันธุ์ไก่
1. พ่อไก่ที่ดีจะต้องมีรูปร่างสมบูรณ์ และแข็งแรง มีน้ำหนักตั้งแต่ 2.5 กก. ขึ้นไป มีอายุตั้งแต่ 9 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี
2. แม่ไก่ที่ดี จะต้องมีรูปร่างสมบูรณ์และแข็งแรง มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 1.5 กก. ขึ้นไป มีอายุตั้งแต่ 7 เดือน แต่ไม่เกิน 3 ปี
· ให้ไข่อย่างน้อยปีละ 4 ชุด ๆ ละ 12 ฟอง
· ฟักไข่ออกและเลี้ยงลูกรอดจนโตอย่างน้อย ชุดละ 6 ตัว
· ไม่ดุร้าย คอยจิกตีลูกไก่ของแม่ไก่ตัวอื่น
การป้องกันรักษา โรคระบาดที่ร้ายแรงและสำคัญ ได้แก่
1. โรคนิวคาสเซิล เป็นโรคระบาดไก่ที่ร้ายแรงที่สุด
อาการ หายใจลำบาก น้ำมูกไหล คอบิด ขาและปีกเป็นอัมพาต อุจจาระร่วงเป็นสีเขียว
การป้องกัน ฉีดวัคซีนให้ไก่ตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป
2. โรคฝีดาษไก่
อาการ มีตุ่มคล้ายหูดเกิดขึ้นตามผิวหนังบริเวณที่ไม่มีขน ที่หัวของฝีเป็นแผลมีสะเก็ดสีน้ำตาลปิดอยู่ ต่อมาจะแห้ง และหลุดไป หรืออีกอาการหนึ่ง คือ เป็นแผลในลำคอ น้ำลายไหลยืด มีกลิ่นเหม็นมาก
การป้องกัน
· ระวังอย่าให้ยุงกัดไก่เล็ก
· ใช้ทิงเจอร์ไอโอดีนทาตามตุ่มฝี และให้ยากิน
· ฉีดวัคซีนให้ไก่อายุ 1 อาทิตย์ขึ้นไป
3. โรคอหิวาต์
อาการ ถ้าเป็นอย่างร้ายแรง ไก่จะตายโดยไม่แสดงอาการให้เห็น ถ้าเป็นอย่างอ่อน ไก่อาจป่วยเป็นเดือน อาการหงอยซึม เบื่ออาหาร ท้องร่วง อุจจาระเป็นสีเหลืองหรือเขียว
การป้องกัน
· ต้องรักษาความสะอาดในเล้าไก่
ฉีดวัคซีนให้ไก่อายุ 1 เดือนขึ้นไปนอกจากนี้ยังมีโรคอื่น ๆ อีกหลายโรค เช่น โรคหลอดลมอักเสบโรคพยาธิ เป็นต้น ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคต่าง ๆ คือ การรักษาความสะอาดเล้าไก่ และภาชนะต่าง ๆ ในเล้า
ข้อพึงระวัง ->