ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

การทำนาเพียงอย่างเดียว ปีละ 1  ครั้ง  เมื่อคิดค่าคุ้มทุนกับผลผลิตที่ได้ พบว่า มีความคุ้มทุนในอัตราที่ต่ำ  บางปีขายผลผลิตได้ในราคาต่ำก็พบภาวะการขาดทุน  เพราะการทำนาแต่ละปีต้องอาศัยปัจจัยทางการเกษตร  และสารเคมีจำนวนมาก ซึ่งล้วนมีราคาแพง  ดังนั้น การหันมาปรับพื้นที่ทำนา เพื่อทำการเกษตรผสมผสาน  ซึ่งรูปแบบของระบบเกษตรกรรมที่มีกิจกรรมตั้งแต่ 2 กิจกรรม ขึ้นไปในพื้นที่เดียวกัน  เพื่อลดความเสี่ยง  เป็นการทำการเกษตร ให้มีการผสมผสานเกื้อกูลประโยชน์ซึ่งกันและกัน อย่างได้ประโยชน์สูงสุด  ระบบที่นำไปสู่ การเกษตร แบบยั่งยืน  ซึ่งจะมีกิจกรรมการเกษตรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ร่วมกันไปด้วย เน้นส่งเสริมให้เกษตรกรปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยวางแผนการปลูกและผลิต ปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพ ใช้ปัจจัยผสมผสานเพื่อลดต้นทุนการผลิต ให้ผลิตในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการทำเกษตรเชิงเดี่ยว

วัตถุประสงค์ ->

1. ลดความเสี่ยงจากความผันแปรของราคาผลผลิตทางการเกษตร
๒. ลดความเสี่ยงจากการระบาดของศัตรูพืช
๓. ช่วยเพิ่มรายได้ในครัวเรือนตลอดปี
๔ เพื่อให้มีแหล่งอาหารที่หลากหลาย และเพียงพอต่อการบริโภคภายในครัวเรือน
๕. จัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

๑. พันธ์พืชไม้ผล  เช่น   ฝรั่ง  มะม่วง  ขนุน กล้วย  มะละกอ  และ ผักสวนครัวชนิดต่างๆ
๒.พันธุ์สัตว์  เช่น  เป็ด ไก่  หมู  วัว

อุปกรณ์ ->

เครื่องมือการเกษตร  เช่น  จอบ เสียม 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

๑.วางแผนการปลูกพืช ผัก ชนิดต่างๆ โดยแบ่งเป็นปลูกพืชหลัก   พืชรอง
(พืชระยะสั้น  ระยะกลาง  ระยะยาว )  อะไรบ้าง  ปลูกพืชหลากหลายชนิดในพื้นที่เดียงกัน
๒  การขุดสระเลี้ยงปลา  บ่อเลี้ยงกบ
๓. วางแผนการเลี้ยงสัตว์  เช่น  วัว  การเลี้ยงเป็ด –ไก่อย่างเป็นระบบ
๔ .ใช้ปุ๋ยหมัก  น้ำยาไล่แมลง  ไม่ใช้สารเคมี
๕. จัดระบบอาหารสัตว์ให้เพียงพอ เช่น  การปลูกหญ้าพันธ์ุต่างๆ

ข้อพึงระวัง ->

ต้องยึดหลักการทำกิจกรรมแบบพอเพียง มีเหตุผล และภูมิคุ้มกัน โดยเน้น การใช้ทุน แรงงาน และศักยภาพของครัวเรือนเป็นหลัก