การทำน้ำหมักชีวภาพ
โดย : นายเส็ง บัวดี วันที่ : 2017-03-20-09:02:12ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 12 ตำบลเนินสว่าง
ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->
เศษอาหารเป็นขยะหรือของเสียจากครัวเรือนที่คนส่วนใหญ่ละเลยถึงคุณค่า และอยากที่จะทิ้งไปให้ไกลๆตัวโดยเร็ว เพราะเพียงแค่ทิ้งไว้ข้ามคืนมันก็จะส่งกลิ่นเหม็น เศษอาหารก็บูดเน่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ทำลายสิ่งแวดล้อม เกิดกลิ่นเหม็น แมลงวัน แมลงหวี่และหนูมากขึ้น ประกอบกับตนเองต้องการลดต้นทุนการผลิตจากการ ใช้สารเคมี จึงสนใจที่จะเรียนรู้วิธีผลิตน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้เอง ซึ่งมีวิธีการทำและใช้อุปกรณ์ที่หาได้ง่าย และนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย โดยเข้ารับการอบรมการทำน้ำหมักชีวภาพกับสำนักงานเกษตรอำเภอ และไปศึกษาดูงานโครงการต่างๆ เพื่อนำความรู้มาปรับใช้ในครัวเรือนและคนในชุมชนที่สนใจได้
วัตถุประสงค์ ->
1. เพื่อลดต้นทุนการผลิต
2. เพื่อผลผลิตปลอดสารพิษและสารเคมี รักษาสิ่งแวดล้อม
3. เพื่อสุขภาพผู้ผลิต และผู้บริโภคแข็งแรงและปลอดภัยจากสารเคมี
วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->
1. ผักหรือผลไม้ (กล้วยน้ำว้าสุก,มะละกอ,ฟักทอง(เอาทั้งเมล็ด),สับปะรด(เอาทั้งเปลือก))
2. กากน้ำตาล
3. น้ำ
4. สารเร่ง พด.2/หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ(EM) ชนิดน้ำ
อุปกรณ์ ->
1. ถังน้ำหมักที่มีฝาปิดสนิท
2. ไม้พายสำหรับคน
กระบวนการ/ขั้นตอน->
1. นำผักหรือผลไม้ มาสับเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกผสมกับกากน้ำตาล ใส่ลงในถังหมัก
2. นำสารเร่งพด.2 จำนวน 1 ซอง ผสมน้ำ 10 ลิตร คนให้เข้ากัน นาน 5 นาที
3. นำสารละลายในข้อ 2. ผสมลงในถังหมัก คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน
4. จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไปผสมในถังหมัก ทิ้งไว้ประมาณ 20 วัน โดยหมั่นเปิดดูทุกๆ 7 วัน เอาไม้คนสลับด้านบนลงด้านล่าง ปิดฝาไม่ต้องสนิท
5. นำน้ำหมักชีวภาพออกมาใช้ได้
ข้อพึงระวัง ->
1. ไม่ควรเลือกพืชจำพวกเปลือกส้ม ใช้ทำน้ำหมัก เพราะมีน้ำมันที่ผิวเปลือกจะทำให้จุลินทรีย์ไม่ย่อยสลาย
2. ห้ามใช้ภาชนะที่เป็นโลหะ เพราะน้ำหมักชีวภาพมีสภาพเป็นกรดสูงจะกัดโลหะผุกร่อนเร็ว
3. น้ำสะอาดควรเป็นน้ำฝน หากจำเป็นต้องใช้น้ำประปาก็ควรใส่ตุ่มตากแดดเพื่อไล่คลอรีนให้หมดก่อน