ความเป็นมา / แรงบันดาลใจ / เหตุผลที่ทำ ->

“ตะโก้” เป็นเมนูขนมไทยที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ขนมไทยชนิดอื่นๆ มีทั้งตะโก้แห้ว ตะโก้เผือก ข้าวโพด และอื่นๆ อีกหลายสูตร แล้วแต่ว่าผู้ทำจะดัดแปลงรสชาติและหน้าตาของขนมตะโก้ได้มากน้อยแค่ไหน ถือได้ว่าเป็นขนมไทยที่มีส่วนประกอบและวิธีการทำที่ง่ายๆ เหมาะสำหรับทำเป็นขนมของฝาก งานบุญต่างๆ หรือทำขาย สร้างรายได้เสริม
 

วัตถุประสงค์ ->

1.เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาด้านการทำขนมตะโก้ไว้ให้คนรุ่นหลัง

2.เพื่อทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้

วัตถุดิบ (ถ้ามี) ->

ส่วนผสมตัวขนม ประกอบด้วย

แป้งถั่วเขียว 35 กรัม ,น้ำต้มใบเตย 380 กรัม ,น้ำตาลทราย 125 กรัม , เผือกนึ่งสุก 80 กรัม

ส่วนผสมหน้าขนม ประกอบด้วย

กะทิ 360 กรัม , แป้งข้าวเจ้า 25 กรัม , เกลือป่น 1 ช้อนชา

 

อุปกรณ์ ->

เตาแก๊ส หม้ออะลูมิเนียม ทัพพี มีด เขียง กระบวย ช้อน

 

กระบวนการ/ขั้นตอน->

ขั้นตอนการทำ

♦เตรียมเผือก

ล้างเผือกให้สะอาด แล้วปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ..... 

รองผ้าขาวบางในรังถึงแล้วนำเผือกที่หั่นไว้นึ่งจนสุก..... 

เตรียมกวนตัวขนม

นำส่วนผสมตามสูตรกำหนดใส่ในกะทะทองตั้งไฟปานกลาง..... 

กวนส่วนผสมจนสุกใส ใช้เวลากวนประมาณ 7 นาที แล้วใส่เผือกลงผสมจนเข้ากันตักขึ้นใส่ภาชนะแล้วปิดฝาไว้รอหยอดใส่กระทง

♦เตรียมหน้าขนม

นำส่วนผสมตามส่วนที่กำหนดให้เข้ากัน กวนด้วยไฟปานกลางกวนกระทั่งจนแป้งข้นเป็นเงาแวววาว เวลากวนประมาณ 7 นาที ตักใส่ภาชนะปิดฝาขณะรอหยอด

ส่วนหน้าขนมที่ได้

♦เตรียมหยอดหน้าขนม การหยอดหน้าขนมเราต้องหยอดไปพร้อมๆกันค่ะ เพราะถ้าเราหยอดหน้าขนมช้าเกินไปขนมตะโก้ของเราก็จะไม่เป็นเนื้อเดียวกันค่ะ (หน้าขนมแยกออกจากตัวขนม)

หยอดตัวขนมประมาณ 1/2 กระทง แล้วหยอดหน้าขนมให้เรียบเสมอกัน..... 

ข้อพึงระวัง ->

นำใบเตยหอมล้างน้ำให้สะอาดเช็ดให้แห้ง ใช้ใบเตยยาว 5 นิ้ว แต่ละนิ้วใช้มีดตัดครึ่งใบเท่านั้น แล้วซ้อนก้นเป็นรูปกระทง แล้วใช้ด้ายเย็บ หรือใช้ไม้กลัดเล็กกลัดใบเตยที่ซ้อนกันสี่ด้าน จะปิดตรงก้นกระทงพอดี อาจมีรูตรงกลางนิดเดียวใช้ใส่ขนมได้