"มท.1 หารือขับเคลื่อนงานผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ผ่านระบบ VCS เน้นย้ำ เร่งแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน วันนี้ (5 ม.ค. 65) เวลา 10:00 น.
ที่ห้องประชุมราชบพิธ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย

...
...
...
...
...
...

"มท.1 หารือขับเคลื่อนงานผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ผ่านระบบ VCS เน้นย้ำ เร่งแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน วันนี้ (5 ม.ค. 65) เวลา 10:00 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาลและ ภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ตรวจราชการกระทรวง ที่ปรึกษาระดับกระทรวง หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้แทนปลัดกรุงเทพมหานคร โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโนบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งการบริหารราชการในระดับพื้นที่เป็นกลไก สำคัญในการนำนโยบายไปขับเคลื่อนการปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จ เกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับพี่น้องประชาชน พร้อมมอบแนวทางการทำงาน 7 ข้อ ได้แก่
1) การยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ในการบริหารราชการระดับพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกฎหมายทั้งในด้านการควบคุมดูแลและการกำกับดูแล ให้เป็นไปอย่างครบถ้วน โปร่งใส ไม่ขาดตกบกพร่อง
2) ต้องรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ด้วยการแบ่งพื้นที่ดูแลรับผิดชอบอย่างชัดเจน ทั้งด้านกายภาพ ถนนหนทาง สายไฟฟ้า สายสื่อสาร ขยะในที่สาธารณะ การก่อสร้าง และปรับปรุงพร้อมทั้งดูแลรักษาให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม อยู่เสมอ และหากพบปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ต้องเร่งแก้ไขตามอำนาจหน้าที่โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
3) ด้านการบริหารจัดการและการจัดการน้ำเสีย ต้องกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการเป็นไปตามแผนที่ท้องถิ่นกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ จะเกิดปัญหา “ขยะติดเชื้อ” จากชุดตรวจ ATK และอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องทำขยะติดเชื้อให้เป็นขยะทั่วไป ตามมาตรการของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องบริหารจัดการขยะเหล่านี้ตามหลักวิชาการ และเสริมสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือของพี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะดังกล่าว
4) การบริหารจัดการสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ต้องมีแผนงานที่ชัดเจน ดำเนินมาตรการควบคุมทั้งยานพาหนะ การก่อสร้าง ส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้ไปทำประโยชน์อื่นแทนการเผาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กำกับดูแลในพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด
5) การฟื้นฟูหลังเกิดสาธารณภัย ให้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการสำรวจและซ่อมบ้านเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบประปา เพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเยียวยาผลกระทบจากความเสียหายตามระเบียบของทางราชการให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้อง ครบถ้วน
6) การบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ อยากต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการสถานการณ์ฯ และ
7) การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ในปีนี้ มีจำนวนลดลง แต่ทั้งนี้ ขอให้รณรงค์สร้างความตระหนัก และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 พฤติกรรมหลักที่เป็นสาเหตุ คือ การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด และการดื่มสุราแล้วขับขี่ พร้อมทั้งวิเคราะห์หาสาเหตุของอุบัติเหตุเพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการเพิ่มเติมต่อไป

ด้าน นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดำเนินการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานและจัดลำดับความสำคัญของการใช้งบประมาณ ตามแผนของท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน 2) ติดตามและสำรวจสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรที่ล้นตลาดหรือสินค้าที่มีจำนวนมากตามฤดูกาล และประสานองค์การตลาดเข้าไปรับซื้อสินค้า และบริหารจัดการจัดหาสถานที่ระบายสินค้า 3) ส่งเสริมผู้ประกอบการ OTOP ให้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและเพิ่มมูลค่าราคาที่สูงขึ้น รวมทั้งการช่วยเหลือช่องทางการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้รายได้กลับคืนสู่ชุมชน 4) ประสานหน่วยงานของการประปาส่วนภูมิภาคในพื้นที่ ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ การขาดแคลนน้ำ การจัดหาแหล่งน้ำ และน้ำต้นทุน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า
1)ในด้านการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ มาประชุมหารือนำสภาพปัญหามาประชุมหาทางออก รวมทั้งบรรจุในแผนพัฒนาท้องถิ่น เพื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ได้ และ
2) ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและทุกภาคส่วนที่ได้มีส่วนร่วมในการทำให้สถิติของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ลดลง

ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำการขับเคลื่อนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัด โดย
1)ต้องให้ความสำคัญในการทำงานด้วยความโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล ทั้งการประเมินความโปร่งใส (ITA) ของ ป.ป.ช. และการส่งเสริมให้ข้าราชการบุคลากรมีคุณธรรมจริยธรรมในการทำงาน
2) การบริหารจัดการงานบริหารทั่วไป เช่น การติดต่อประสานงานระหว่างกระทรวง กรม และจังหวัด การสนับสนุนการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีและผู้บริหารระดับสูง เป็นต้น
3) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจตลาดชุมชน ตลาดท้องถิ่น ตลาดออนไลน์ ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความพร้อม เพื่อให้ผู้ผลิตและเจ้าของตลาดได้พบปะกัน และพัฒนาตลาดไปสู่การส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งให้ความสำคัญในการลงพื้นที่ไปสร้างขวัญกำลังใจ ไปตรวจเยี่ยม จับจ่ายใช้สอยอุดหนุนผู้ประกอบการ และกำหนดแนวทางสื่อสารกับสังคมให้ได้รับรู้รับทราบ และ
4) ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการตรวจติดตามการขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณเงินกู้เพื่อฟื้นฟูสถานการณ์โควิด-19 ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยด้วยความมุ่งมั่น เพื่อแก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และขอให้ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดเพื่อบังเกิดผล ให้พี่น้องประชาชนสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขอย่างยั่งยืน